คริสต์มาส อีฟ
ที่มา : คอลัมน์: บ้านเกิดเมืองนอน: คริสต์มาส อีฟ
ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- ศุกร์ที่ 24 ธันวาคม 2553 00:00:57 น. ไท ทองเค
คืนนี้เป็น คริสต์มาส อีฟ และพรุ่งนี้ 25 ธันวาคมเป็นวันคริสต์มาสเทศกาลฉลองการประสูติของพระเยซูแห่งศาสนาคริสต์พิธีการทางศาสนาที่สำคัญของคาทอลิกชนก็ได้แก่ มิสซาเที่ยงคืนสอดคล้องตามคำภาษาอังกฤษที่ผสมผสานกันระหว่างคำว่า คริสต์ และคำว่า มาสส์โดยคำว่า "มาสส์" ก็น่าจะมาจากภาษาละตินว่า "missa" การทำมิสซาอันศักดิ์สิทธิ์เล่ากันว่า เมื่อครั้งที่พระสันตะปาปาจูเลียสที่ 1 ประกาศให้วันที่ 23ธันวาคมเป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส)พระองค์และสัตบุรุษพากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยังตำบลเบธเลเฮม
และไปยังถ้ำที่เชื่อว่าเป็นสถานที่ซึ่งมีการประสูติของพระเยซูเจ้า
เวลาที่ไปถึงเป็นเวลาเที่ยงคืน พระสันตะปาปาทรงถวายบูชามิสซา ณ ที่นั้นเมื่อเสร็จแล้วก็กลับมาที่พักเป็นเวลาเช้ามืดในราวตี 3พระองค์ถวายมิสซาอีกครั้ง และสัตบุรุษเหล่านั้นก็พากันเดินทางกลับ แต่ก็ยังมีสัตบุรุษหลายคนที่ไม่ได้ไปพระสันตะปาปาจึงทรงถวายบูชามิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3เพื่อสัตบุรุษเหล่านั้นพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตให้พระสงฆ์ถวายบูชามิสซาได้ 3 ครั้งในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืน ในวันคริสต์มาส ส่วนคำอวยพรที่ขึ้นต้นว่า Merry Christmas นั้น คำว่า Merryภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุขและความสงบทางใจ เป็นคำที่ใช้อวยพรขอให้ได้รับสันติสุขและความสงบทางใจ เนื่องในโอกาสเทศกาลคริสต์มาส
นักบุญที่ได้รับการยกย่องให้เป็นซานตาคลอสคนแรก คือ (เซนต์)นิโคลาสแห่งไมรา นักบุญองค์นี้เป็นพระสังฆราชของไมราในศตวรรษที่ 4อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันคริตส์มาส นักบุญนิโคลาสจึงเดินทางแจกของขวัญให้กับเด็กๆ อย่างมีความสุข
การตกแต่งต้นคริสต์มาส ต้องย้อนหลังไปศตวรรษที่ 8 เมื่อเซนต์บอนิเฟสมิชชันนารีชาวอังกฤษที่เดินทางไปประกาศเรื่องพระเจ้าในเยอรมนีได้ช่วยเด็กที่กำลังจะถูกฆ่าเป็นเครื่องสังเวยบูชาที่ใต้ต้นโอ๊กโดยเมื่อโค่นต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยู่โคนต้นโอ๊กท่านจึงขุดขึ้นมาและให้ถือเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์
ต่อมา มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมันตัดต้นสนไปตั้งในบ้านในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1540 จากนั้นในศตวรรษที่ 19ต้นคริสต์มาสจึงเริ่มแพร่หลายไปที่อังกฤษและทั่วโลก
"เพลงคริสต์มาส" ที่ใช้เฉลิมฉลองมีทั้งจังหวะช้าและจังหวะสนุกสนานส่วนใหญ่แต่งในยุคพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษ (ค.ศ.1840-1900)
เพลงคริสต์มาสที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night
ความเป็นมาของเพลงนี้ก็คือ วันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818คุณพ่อโจเซฟ โมห์ (Joseph Mohr) เจ้าอาวาสวัดโอเบิร์นดอฟ (Oberndorf)
ประเทศออสเตรีย ทราบว่าออร์แกนในวัดเสียทำให้วงผู้ขับร้องไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมได้จึงมีการแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ แล้วนำไปให้ฟรานซ์ กรูเบอร์ (Franz Gruber) เพื่อนคนหนึ่งเป็นผู้ใส่ทำนอง และในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดนี้ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก
เทศกาลสำคัญของชาวคริสต์นี้ยังเป็นที่มาของการมอบของขวัญอันเป็นผลกระทบในทางกิจกรรมเศรษฐกิจโลกกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญของการลดราคาสินค้าครั้งใหญ่เติบโตและมั่นคงมาหลายยุคหลายสมัยไปทุกภูมิภาค
แก้ไขล่าสุด (วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม 2010 เวลา 11:57 น.)