บทเรียนชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น
บทเรียนชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น
เดือน มีนาคม 2011 คงเป็นวันที่โลกได้รู้จักประเทศญี่ปุ่น และทุกคนต่างร้องไห้สงสารพี่น้องเพื่อนร่วมโลกของเราที่ต้องเผชิญกับภัย พิบัติจากธรรมชาติ
และพบความสูญเสียหายอย่างมากมายเหลือที่จะประมาณนับได้ ขอพระเจ้าได้โปรดเมตตาและช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย
และในสถานการณ์เช่นนี้ทำให้เราได้เห็น และมีข้อคิดดีๆหลายประการดังต่อไปนี้
1) เมื่อมนุษย์สรุปว่าธรรมชาติให้ชีวิตและให้ข้าวปลาอาหาร และเสื้อผ้า ทรัพย์สมบัติ ดังนั้นจะไปโทษว่าพระเจ้าก็คงไม่ถูกต้อง
2) แม้ว่าจะมีระบบเตือนภัยอย่างดีที่สุด มีเทคโนโลยี่ที่ล้ำหน้า เป็นผู้นำในด้านเทคโนแต่ก็ไม่สามารถมีหลักประกันได้ว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายใน ชีวิต
3) ชีวิตคนเรานี่มันไม่แน่นอนเลย วานนี้สุขวันนี้กลับทุกข์ วานนี้มีทุกๆสิ่งวันนี้ไม่มีทุกๆสิ่ง ไม่เหลืออะไรเลย
4) พายุและคลื่นชีวิตถ้าไม่เกิดขึ้นกับใครก็คงไม่เข้าใจว่ามันรุนแรงและยากเพียงไร
5) แม้จะได้ หรือมีสิ่งสารพัดทุกอย่างในโลกนี้ที่ปรารถนา แต่หากปราศจากพระเจ้าแล้วชีวิตก็ไม่มีค่าอะไร
6) ทรัพย์สมบัติในโลกนี้ที่เราเพียรพยายามสร้างขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อ แต่สักวันหนึ่งมันก็จะพังทลายลงสิ้นเมื่อวันพิพากษาของพระเจ้าลงมา
7) สิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวญี่ปุ่นดูเหมือนจะเป็นความสูญเสียที่ยากจะ บรรยายในรอบ 140ปีของพวกเขา แต่พระคัมภีร์กล่าวว่าในยุคสุดท้ายของโลกนี้จะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่า
8) อย่ามั่นใจว่าสึนามิจะไม่เกิดขึ้นกับเรา หรือประเทศของเรา เหมือนกับปี47 ที่สึนามิเกิดขึ้นกับไทย ญี่ปุ่นอาจจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย แต่วันนี้ก็เกิดขึ้นกับตัวเอง ดังนั้นอย่ามั่นใจว่าตนเองแข็งแรงดีแล้ว
9) โลกนี้คือสถานที่อยู่เพียงชั่วคราว ซึ่งมีทั้งความทุกข์ และความสุข
10)เมื่อปัญหาเกิดขึ้นในชีวิต ใครก็ช่วยใครไม่ได้ ต่างคนต่างก็ต้องเอาตัวรอดพ้น ใครที่มีสติและเตรียมตัวได้ไวกว่าย่อมรอดพ้นอันตรายได้
11)สึนามิเกิดขึ้นได้ในเวลารวดเร็ว และไม่ได้แจ้งให้ทราบก่อนว่าวันใดโมงใด เช่นเดียวกันพระคริสต์จะเสด็จมาไม่มีใครรู้ได้ว่าวันไหน โมงไหน
12)เมื่อมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น ปัญหานั้นย่อมแก้ไขได้หากประชาชนต่างฟังเสียงของผู้นำ และร่วมมือกันไม่สร้างปัญหาซ้ำเติมขึ้นมาอีก และไม่กล่าวซ้ำเติมซึ่งกันและกัน
13)เมื่อเกิดปัญหาระดับชาติ หรือปัญหาใดๆทุกระดับชั้น ทำให้เราได้เห็นน้ำใจของผู้คนมากยิ่งขึ้น
14)เมื่อสังคมหนึ่งได้รับความทุกข์ยากแสนสาหัส ย่อมมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อาจจะจะฉกฉวยผลประโยชน์ และเอาความอ่อนแอของอีกฝ่ายเป็นช่องทางทำมาหากินและหาผลประโยชน์
15)ปัญหาที่เกิดขึ้นอีกมุมหนึ่งในเมืองหนึ่ง ย่อมส่งผลกระทบมาถึงผู้คนอีกเมืองหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
16)เทคโนโลยีก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยป่าวประกาศ และส่งข่าวให้คนของตนทราบข่าวได้เร็วขึ้น หากคริสตจักรไทยจะหันมาให้ความสำคัญกับไอทีหรือเทคโนโลยีก็ไม่เสียหาย
17)การสื่อสารผ่านใยแก้วที่ใต้ทะเลเสียหาย ก็สามารถใช้การสื่อสารบนดินได้เป็นแผนสอง การเตรียมการไว้ล่วงหน้าย่อมทำให้ปัญหาใหญ่กลายเป็นปัญหาเล็กๆได้
18)ผู้นำญี่ปุ่นเรียกร้องนานาชาติมาช่วยเหลือตนเอง คนเรานั้นเพียงยอมรับการช่วยจากผู้อื่นและไม่ทนงตนก็จะมีคนเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อจำเป็นเช่นนี้ได้ แต่คนที่คิดว่าตนเองแข็งแรงและเก่งกล้าย่อมอยู่อย่างไร้มิตร
19)คลื่นใต้น้ำมันแรงจริงๆ ปัญหาที่อยู่ใต้พรมก็สร้างความหนักใจให้ผู้นำจำนวนมาก
20)ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกในรอบ 1-2ปีนี้ บ่งบอกให้มนุษย์ทราบว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้ในพระคัมภีร์นั้นถูกต้อง แล้วคร๊าบ มันจะสำเร็จเป็นแน่แท้
21)คนที่ไม่ยอมรับว่าพระเจ้ามีจริง และพระเจ้าเป็นผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งปวงก็น่าสงสาร เพราะเขาแกล้งหลอกลวงตัวเองไปวันๆ สักวันเมื่อรู้ความจริงก็สายเกินแก้ไข
22)เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเตือนใจว่า ฉันต้องพร้อมจริงๆเพราะวันของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว จะอุ่นๆ อีกต่อไปไม่ได้แล้ว มีอะไรที่สามารถทำได้ก็ต้องรีบทำเพื่อพระเจ้า
23)ประเทศไหนจะเป็นรายต่อไป ก็ต้องจำตามองดูให้ดี เพราะชีวิตไม่มีอะไรที่แน่นอน ไม่มีอะไรที่ยั่งยืนมั่นคง ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ
@ อาจารย์เรวัฒน์ เทพจักร์