คำเทศนาเรื่อง ที่บนไม้กางเขนท่านได้เห็นอะไร? มาระโก 14:27-42
คำเทศนาเรื่อง ที่บนไม้กางเขนท่านได้เห็นอะไร?
มาระโก 14:27-42
โดย อจ.เรวัฒน์ เทพจักร
คริสตจักรศิโยนกรุงเทพ
บนไม้กางเขนนั้นแต่ละคนก็อาจจะมองเห็นที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับข้าพเจ้าได้เห็น 3 สิ่งที่เป็นบทเรียนและให้ข้อคิด หนุนใจฝ่ายวิญญาณ
ประการที่ 1 เห็นความรักที่ไม่ล้มเลิกของพระเจ้า
-มนุษย์ที่หลงเจิ่นไป ทิ้งความเชื่อ และทำบาป เพลิดเพลินกับความบาปชั่ว และอ่อนแอไม่มีใครสามารถช่วยตัวเองหลุดจากบ่วงบาปได้เอง อ่อนกำลัง สิ่งที่รู้ว่าดีอยากทำดีแต่ก็อ่อนแอทำไม่ได้ มนุษย์ทุกคนทำบาปและเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า แต่พระเจ้าก็อดทนและรอคอยเพื่อให้มนุษย์หันมาฟังคำของพระองค์ ทรงรักมนุษย์และทรงยอมกระทำการดีเหตุผลเพราะทรงรัก เป็นความรักที่ยั่งยืนนาน แม้อีกฝ่ายจะล้มเลิก หรือดูถูกความรักนั้นแล้ว แต่พระเจ้าก็ยังทรงรักและห่วงใยสวัสดิภาพให้
ตัวอย่าง : เหมือนพ่อแม่ที่เห็นลูกกำลังตกอยู่ในอันตราย และยืนบนความตายกลางถนน หรือรางรถไฟ และตระโกนอย่างสุดเสียงเพื่อเตือนลูกที่อยู่แต่ไกลว่าระวังอันตราย ให้เดินออกมาเดี๋ยวนี้.... แต่ลูกน้อยกลับไม่ได้ยินเสียงนั้น......
-พระเจ้าทรงรักมนุษย์จนกระทั่งยินยอมที่จะกระทำสิ่งที่ยาก คือทรงประทานพระบุตรเสด็จลงมาเพื่อไถ่โทษบาปผิด มาแบกรับเอาเคราะห์กรรมทั้งปวงของมนุษย์ไปเสีย และประทานชีวิตใหม่ให้
ดังนั้น : วันศุกร์ประเสริฐนี้ขอพี่น้องระลึกถึงความรักที่พระเจ้ามอบให้ ความปรารถนาดีๆ และความเพียรพยายามของพระเจ้าที่จะแก้ไขปัญหาความบาปให้เรา ไม่มีความรักใดๆในโลกนี้เหมือนความรักของพระเจ้า ให้มองเห็นถึงความรักที่บริสุทธิ์ซึ่งพระเจ้าหยิบยื่นให้ท่าน ขอให้เราที่จะรักพระเจ้าไม่เลิกล้มที่จะบอกลาพระเจ้าแม้นว่า ชีวิตจะผ่านพบกับปัญหามากมาย
ประการที่ 2 เห็นการตระเตรียมของพระเจ้า มก14:22 27 28
-วันศุกร์ประเสริฐ เป็นวันที่เราได้เห็นถึงการตระเตรียมของพระเจ้า พระเจ้าผู้เป็นแบบอย่างที่มีการตระเตรียมอยู่เสมอ พระองค์ตรัสไว้อย่างชัดเจนว่าเหตุการณ์จะเป็นไปอย่างไรบ้าง และพระองค์เตรียมจิตใจของผู้คน เตรียมใจของสาวก และเตรียมจิตใจของพระองค์เอง อาหารมื้อสุดท้ายของพระองค์คือการเตรียมใจสาวก เพื่อจะให้เกิดความประทับใจ เพื่อได้เตรียมชีวิตให้พร้อมอยู่เสมอ แต่มนุษย์เองกลับไม่ได้ตอบสนองการตรัส การจัดเตรียมของพระเจ้า และเราเองก็ไม่ได้ตระเตรียมใจของเราอะไรเลยเพื่อพระเจ้า
( ทรงจัดเตรียมก่อนเกิด จัดเลือกเอาสาวก12คนด้วยพระองค์เอง จัดเตรียมสถานที่ต่างๆ จัดเตรียมผู้คน ทรงเตรียมจิตใจของพระองค์ก่อนเข้าสู่กางเขน ) ทรงตรัสว่า
- นี่คือกายของเรา นี่คือโลหิตของเรา ซึ่งหลั่งออกเพื่อคนเป็นอันมาก
- “ท่านทั้งหลายจะทิ้งเรา”
-“ จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง” ข้อ38
ทั้งหมดเหล่านี้คือถ้อยคำของพระเยซูเพื่อตรัสแก่สาวกในช่วงนาทีชีวิต เพื่อเตือนสติและเตรียมใจสาวกให้พร้อมอยู่เสมอกับเหตุการณ์ต่างๆที่จะมาถึง เช่นเดียวกันวันนี้ท่านผู้เป็นบุตรของพระเจ้าทั้งหลาย ท่านได้ตระเตรียมจิตใจของท่านอย่างไรบ้างหรือไม่เพื่อรับมือกับชีวิตยุคสุดท้าย ซึ่งจะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ล้วนมีผลกระทบโดยตรงกับความเชื่อของเรา ท่านได้เตรียมอะไรเพื่อที่จะถวายงานแด่พระเจ้าบ้าง ท่านได้เตรียมจิตใจของท่านบ้างหรือไม่ก่อนมานมัสการ ท่านได้ปลุกใจของท่านเพื่อที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าหรือไม่ ขอให้วันศุกร์ประเสริฐนี้ทำให้เราได้เห็นถึงแบบอย่างของพระเจ้านี้และเลียนแบบอย่างของพระองค์ จัดเตรียมตัวเตรียมใจที่จะมานมัสการหรือรับใช้พระเจ้า เตรียมชีวิตเพื่อทำงานใหญ่ของพระเจ้า เตรียมชีวิตเพื่อเป็นเหตุทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการพื้นฟูในเมืองไทย ขอให้พี่น้องเตรียมจิตใจของทุกคนในครอบครัวเพื่อกลับมาคืนดีกับพระเจ้า
ประการที่ 3 เห็นการเอาชนะเนื้อหนังของพระองค์ ข้อ 32-37
-ที่สวนเกทเสมนีเป็นพื้นล่างของภูเขาที่ฝังศพของชาวยิวจำนวนมากมายตลอดหลายยุคสมัย ณ ที่นั้นมีเพียงต้นมะเดื่อไม่กี่ต้นปลูกไว้ ที่นั่นเราได้เห็นถึงความกลัว ความวิตก ความเจ็บปวดทั้งสิ้นที่ทำให้พระองค์เป็นทุกข์ทรมาน เรื่องราวที่กำลังทำให้พระองค์หนักพระทัย ทุกข์ยากใจแทบจะตาย เช่นเดียวกับวันนี้หลายครั้งที่ท่านก็อาจจะมีเรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจแทบตาย เจอปัญหาและต้องแบกภาระที่หนักเกินจิตใจจะรับไหว ขอให้พระเยซูเป็นอีกแรงใจของท่านว่า พระองค์ก็ทรงรับภาระปัญหามากมายกว่าท่าน ทรงรู้ว่าท่านเผชิญปัญหาหนักและรู้ว่าจะช่วยเราอย่างไรได้บ้าง
-ที่สวนเกทเสมนีเราได้เห็นคำอธิษฐานของพระองค์ซึ่งเต็มไปได้ความกลัวมากมายเกิดขึ้น ทรงอธิษฐานว่าหากเป็นไปได้ขอให้ถ้วยแห่งความเจ็บปวดนี้เลื่อนออกไปเถิด หากเป็นท่าน ท่านคิดว่าท่านจะอธิษฐานอย่างไร? คงไม่แปลกที่พระองค์จะอธิษฐานขอเช่นนั้น
ทรงกล่าวว่า .... แต่ขออย่าเป็นไปตามใจของพระองค์ แต่ขอให้เป็นไปตามแผนของพระบิดาเถิด ทำให้เราเห็นถึงสงครามใหญ่เกิดขึ้นในจิตใจของพระองค์ คือดูเหมือนใจหนึ่งก็อยากหยุดและเลิกล้มที่จะกระทำตามพระทัยพระบิดา แต่อีกใจก็อยากจะกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
มีกี่ครั้งที่ท่านเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ คือเหมือนเกิดสงครามในจิตใจ ทำให้เราจะต้องเลือกว่าจะเอาหลักการตัวเอง หรือหลักการของพระเจ้า จะทำตามพระวจนะของพระเจ้า หรือทำตามใจของข้าพเจ้า “ สิ่งที่ถูกต้องอาจจะไม่ถูกใจเรา สิ่งที่ถูกใจของเราอาจจะไม่ถูกต้องพระทัยพระเจ้า” ท่านจะเลือกเอาออย่างไร? แต่เราได้เห็นว่าพระเยซูเลือกที่จะเอาชนะตัวเอง
-สิ่งรอบข้าง คนรอบตัวที่คิดว่าน่าจะเข้มแข็งและยืนอยู่เคียงข้างกันได้ แต่ในที่สุดก็ทำให้พระเยซูผิดหวังบ้าง เมื่อสาวกคนที่สัญญาว่าจะรักและติดตามไม่ทอดทิ้งแม้คนอื่นจะทิ้งไปเสีย จะไม่ปฏิเสธเลย แต่ในที่สุดก็เห็นว่าเขาก็คือคนหนึ่งที่อ่อนแอ และไม่สามารถหวังหรือวางใจได้เลยในมนุษย์ แต่คนรอบข้างที่ไม่ได้มีกำลังใจมอบให้พระองค์ก็ไม่ได้ทำให้พระองค์อ่อนแอหรือเลิกล้มความตั้งใจที่จะอุทิศชีวิตเพื่อทำตามแผนงานของพระบิดาในสวรรค์
เช่นเดียวกัน ....
เมื่อท่านตั้งใจที่จะเอาชนะใจตัวเอง และอยากที่จะตามพระทัยของพระเจ้า ท่านอาจจะพบความผิดหวังในมนุษย์คนแล้วคนเล่า และท่านจะเห็นถึงความอ่อนแอ และการเห็นแก่ตัว และการรักตัวเองของคนอื่นๆ จนอาจจะทำให้ท่านพ่ายแพ้และท้อถอยที่จะทำงานของพระเจ้า หรือกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า วันนี้ขอให้ท่านได้มองเห็นถึงวิธีที่พระเยซูได้รับชัยชนะเหนือตัวเอง แม้คนอื่นจะไม่เอาด้วย แต่พระองค์ก็เป็นแบบอย่างของการยืนยันตามแผนงานของพระบิดา
มีอะไรไหมที่ทำให้ท่านสะดุด และท้อถอยที่จะกระทำตามพระทัยของพระเจ้า ขอให้ท่านท่านได้เห็น และเรียนรู้จากบทเรียนของวันศุกร์ประเสริฐในปีนี้ ผ่านชีวิตของพระเยซูเถิด
แก้ไขล่าสุด (วันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2011 เวลา 01:28 น.)