ข่าวดี! กรณีเผาโบสถ์คริสต์ลงเอยแล้ว โดย ธวัช เย็นใจ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา “ผู้ต้องหาเผาคริสตจักรผ่านด่าน ลำพูน ต้องการพบด่วน”
เราต้องกระวีกระวาดไปทันที “ผู้ต้องการทั้งแปดคนต้องอยากจะขอโทษต่อผู้นำของมูลนิธิ องค์กรคริสตจักร และขอให้เราช่วยเหลือพวกเขาในคดีความที่ศาล”
ขอบคุณพระเจ้า!
นี่เป็นคำอธิษฐาน และเป็นโอกาสที่เรารอคอยมานานหลายปี นับตั้งแต่วันแรกที่กะเหรี่ยงในหมู่บ้านผาด่าน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ได้ลุกฮือขึ้นเผาโบสถ์ในยามค่ำคืน
มันรวดเร็วเกินกว่าที่พี่น้องคริสเตียนจะช่วยกันดับได้ทัน จึงวอดวายกลายเป็นเถ้าถ่านภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ดังที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกทางอินเตอร์เนทนั้น
หลังจากนั้น ได้มีการพบปะเพื่อไกล่เกลี่ยกันหลายครั้งหลายหน ระหว่างผู้นำคริสตจักร ผู้นำองค์กร สหกิจคริสเตียนฯ ตำรวจท้องที่ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ อบต. และ อบจ.เจรจากับกลุ่มชาวบ้านที่ลงมือเผาโบสถ์ แต่ทางฝ่ายกะเหรี่ยงพุทธที่นับถือผีได้ยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า พวกคริสเตียนจะต้องย้ายออกไปจากหมู่บ้าน หากไม่ย้ายจะต้องถูกเผาซ้ำอีก ไม่เฉพาะตัวโบสถ์เท่านั้น แต่บ้านของคริสเตียนทุกหลังจะต้องถูกเผาด้วย ไม่กี่วันต่อมาบ้านของสมาชิกคริสตจักรผาด่านก็ถูกเผา แต่ดีที่ดับทันโดนไหม้แค่รั้วบ้านเท่านั้น และบางบ้านก็ถูกข่มขู่และถูกขว้างหลังคาด้วยก้อนหินในยามค่ำคืน
แต่ทางฝ่ายคริสเตียนยืนกรานว่า จะไม่ยอมย้ายออกไปจากหมู่บ้านอย่างแน่นอน เพราะถ้าขืนย้ายก็จะทำให้พี่น้องคริสเตียนกะเหรี่ยงในอีกหลายๆหมู่บ้าน ต้องประสบชะตากรรมแบบเดียวกัน คือจะถูกพวกนับถือผีขับไล่ออกไป
เมื่อเราเห็นว่าทางสหกิจคริสเตียนฯไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ จึงไปของความช่วยเหลือจาก ศจ. วีระพล ประวัง ประธานมูลนิธิสายรุ้ง จึงการเจรจาไกล่เกลี่ยอีกหลายครั้งต่อมาแต่ก็ไม่เป็นผล ในที่สุดจึงได้มีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมได้ผู้ต้องหาทั้งหมด ๘ คน
ขณะที่คดีความยังอยู่ในศาล ทางฝ่ายคริสเตียนก็ได้มีการเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้เผาโบสถ์กลับใจ มาเจรจาไกล่เกลี่ย ยอมรับความผิดและขอโทษขอโพย แต่ฝ่ายผู้ต้องหายืนยันจะสู้คดีจนถึงที่สุด จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ศาลได้นัดตัดสินคดี โดยเห็นว่าจำเลยได้ทำผิดจริง จึงให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๘ คนด้วยการจำคุกคนละ ๕ ปี!
หลังจากนั้น จำเลยทั้งหมดก็ได้ประกันตัวออกมา และให้ญาติพี่น้องติดกับผู้นำมูลนิธิและองค์กรคริสตจักร ขอพบเพื่อยอมรับว่าผิดจริง และทั้งยังขอให้เราช่วยเหลือในการยื่นเรื่องต่อศาล ขอความปรานีให้ลดหย่อนผ่อนโทษลง หากเป็นไปได้ขอเป็นเพียงแค่รอลงอาญา ซึ่งทางเราก็พร้อมอยู่แล้ว และรอมาเป็นเวลาหลายปีที่จะยกโทษและให้อภัยแก่คนเหล่านั้น ตามหลักคำสอนของพระเยซูคริสต์
“จงรักศัตรูของท่าน และจงอธิษฐานเผื่อผู้ที่ข่มเหงท่าน” (มธ. ๕.๔๔)
เมื่อวานนี้ (๕ พย.๑๑) ได้มีการนัดหมายผู้ถูกศาลตัดสินให้จำคุกทั้ง ๘ คน มาพร้อมทั้งญาติพี่น้องประมาณ ๓๐ คน และทนายความจากจังหวัดลำพูน ประธานมูลนิธิสายรุ้ง ศจ.วีระพล ประวัง ผู้นำจากองค์กรสยามแบ๊บติสต์ อ.ธวัช เย็นใจ อ.วรวุฒิ นุพอ อ.วรพงศ์ ศิษยาภิบาล อ. นิรุทธิ์ ผู้ช่วยศิษยาภิบาลคริสตจักรผ่าด่าน พร้อมกับผู้ใหญ่บ้านผาด่าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ครูบุญมีซึ่งเป็นพัฒนากรประจำหมู่บ้าน กับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเอนจีโอ มาพบปะพูดคุยกันที่ห้องประชุมของคริสตจักรนานาชาติเชียงใหม่
ได้ข้อตกลงที่น่าพึงพอใจทั้งสองฝ่าย ดังนี้
๑)ผู้ถูกตัดสินจำคุกทั้ง ๘ คนได้ยินยอมพร้อมใจกันยอมรับผิด และขอโทษต่อคริสตจักรผาด่าน ผู้นำมูลนิธิและผู้นำองค์กร
๒)คริสตจักรผ่าด่าน ผู้นำมูลนิธิและองค์กร ยินดีที่จะยกโทษให้ทั้ง ๘ คน โดยไม่ติดใจเอาความแต่ประการใด
๓)ทั้ง ๘ คนยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ประมาณ ๑ แสน ๖ หมื่นบาท
๔)ขอให้มีการจัดตั้งทนายความคนใหม่ เพื่อยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอความปรานี เพื่อขอลดหย่อนผ่อนโทษ หรือขอผ่อนปรนโดยการรอลงอาญา
บรรยากาศเต็มด้วยมิตรภาพและชื่นชมยินดียิ่ง ต่างฝ่ายต่างยิ้มแย้มแจ่มใสและจับมือกันตามธรรมเนียมกะเหรี่ยง และมีการพูดคุยกันถึงงานวันคริสตมาสที่จะจัดขึ้นที่หมู่บ้านผาด่านในเดือนธันวาคม ซึ่งจะมีการเชิญทุกคนในหมู่บ้าน และเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาร่วมในงานเลี้ยงนั้นด้วย เพื่อฉลองวันเสด็จมาประสูติของพระเยซูคริสต์ และเลี้ยงต้อนรับการกลับคืนดีกัน
ทุกคนอธิษฐานด้วยความหวังว่า ในไม่ช้าจะมีโอกาสนำพี่น้องทุกคนในหมู่บ้านผาด่านและใกล้เคียงมาถึงแผ่นดินสวรรค์และความรอดในพระเยซูคริสต์ แล้วเราจะมีความชื่นชมยินดีเหมือนกับคำอุปมาที่พระองค์ทรงเล่าในลูกาบทที่ ๑๕ ที่เจ้าของได้พบแกะที่หลงไป หญิงที่พบเหรียญซึ่งหล่นหาย และพ่อได้พบบุตรน้อยที่เตลิดไปจากบ้านและกลับคืนมาอีกครั้ง
“จงชื่นชมยินดีกับข้าพเจ้าเถิด เพราะได้พบคนที่หลงหายไปนั้นแล้ว”
ฮาเลลูยา!.
แก้ไขล่าสุด (วันเสาร์ที่ 09 มิถุนายน 2012 เวลา 01:51 น.)