คำเทศนาเรื่อง ได้ดีด้วยพระวจนะ
คำเทศนาเรื่อง ได้ดีด้วยพระวจนะ
ข้อพระคัมภีร์ สดด 119: 89-104
คำนำ : พระวจนะของพระเจ้าเมื่อไปตกอยู่ในมือของคนที่ไม่เชื่อ นอกจากเขาไม่อ่านแล้วยังนำพระเพลิงมาสู่ครอบครัวพรรคพวกของเขา นำการสูญเสีย การร้องไห้ เรื่องราวที่น่ากลัวมาสู่พวกเขาอย่างใหญ่หลวง 1ซมอ 5:4 แต่ขณะเดียวกันพระวจนะที่ไปอยู่ในบ้านของคนที่เชื่อถือและเลื่อมใสในพระคำของพระเจ้า ให้เกียรติพระคำ พระพรเกิดขึ้นเป็นเหตุทำให้ครอบครัวได้รับพระพรเจริญขึ้นเรื่อยๆ 2ซมอ 6:11
และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมพระเจ้ากำชับให้ผู้ที่เชื่อใส่ใจในพระวจนะของพระเจ้าทุกๆวัน เพราะพระวจนะของพระเจ้าทำให้ชีวิตคริสเตียนดีขึ้นๆเป็นลำดับ ในวันนี้ขอให้เรามาพิจารณา 2 ประการ
ประการที่ 1 เกิดการเยียวยารักษาจากพระเจ้า 2 พกษ5:1-2
-นาอามานเป็นแม่ทัพของประเทศซีเรียที่เก่งที่สุด เป็นทหารคนสนิทของพระราชา แต่ชีวิตของนาอามานมีปัญหาเพราะติดเชื้อโรคเรื้อนเป็นที่อับอายขายหน้า และนับเป็นความเจ็บปวดสูญเสียครั้งใหญ่ เป็นขี้ปากของคน เป็นที่น่ารังเกลียดของผู้คน แต่เมื่อเด็กทาสในบ้านบอกให้เขาไปหาผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า เพื่อไปรับการเยียวยาโดยวิธีการของพระเจ้า ซึ่งเป็นวิธีการง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตองใดๆเลย
-ในที่สุดเขาก็ยอมไปโดยดีด้วยความถ่อมใจสุดๆ แต่เมื่อเขาไปหาผู้รับใช้พระเจ้า พระเจ้าตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะให้แม่ทัพซีเรียทำง่ายๆคือการเชื่อฟังพระเจ้า ( ไปอาบน้ำในน้ำ2พกษ5:14 ) แรกๆดูเหมือนเขาไม่ถ่อมใจเพียงพอที่จะทำ แต่เมื่อเขายอมการรักษาเกิดขึ้น....
และท่านไปหาคนของพระเจ้ากล่าวว่า ข้อ 15 “ บัดนี้ข้าพเจ้าทราบแล้วว่าไม่มีพระเจ้าทั่วไปในโลก นอกจากที่ในอิสราเอล”
เช่นเดียวกัน : คริสเตียนหลายคนอ่านพระคำเยอะแต่พลาดที่จะเชื่อฟังพระคำพระเจ้า เราไม่ควรจะดูถูกพระคำหรือคำสอนของพระเจ้า พระสัญญาของพระเจ้า หรือปล่อยวางเพราะคำเทศนา คำสอนที่ฟังเรียบๆ อย่าหันไปพึ่งพาพระใดๆ หรือคำสอนอื่นๆ หรือข่าวประเสริฐอื่นๆแทนคำสอนของพระเจ้า กท 1:6-7 และระวังอย่าให้เราพึ่งพาสติปัญญาของตนเอง สภษ 3:5-8 การกระทำเช่นนี้จะเกิดการรักษาไปถึงกระดูก ถ้านาอามานคนต่างชาติได้รับการเยียวยาเพราะเชื่อฟังถ้อยคำของพระเจ้า ท่านวันนี้ก็สามารถได้รับการรักษา การเยียวยาหากเรามีจิตใจที่เชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า ชีวิตมีแต่เจริญขึ้นทางเดียว
ประการที่ 2 เกิดสติปัญญา ยก 1:5-8
ความหมายคำว่า σοφιας โซเฟียส์ wisdom หมายถึงสติปัญญา วิชาความรู้ และรวมถึงความสามารถที่จะคิดและนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ในแง่จิตวิญญาณ
N. ปัญญา สติปัญญา {ความเฉลียวฉลาด}
N. สติปัญญา การตัดสินอย่างเฉียบแหลม
โลกนี้สอนเอาไว้ว่าความฉลาดขึ้นอยู่กับสิ่งต่อไปนี้ 5 ปัจจัยหลัก
1. การมีรอยหยักบนสมอง
2. อัตราส่วนของน้ำหนักสมองต่อน้ำหนักตัว
3. การเรียนรู้และประสบการณ์การฝึกฝน
4. การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
5. อาหารและออกซิเจนที่มาเลี้ยงสมอง
โดยมีพหุปัญญา ความฉลาด 8 อย่าง (Multiple Intelligence)
ศาสตราจารย์โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ เขียนไว้ในหนังสือ Frames of Mind ว่าปัญญาของ มนุษย์หรือความเก่งของมนุษย์มีอยู่ 8 ด้าน เรียกว่าพหุปัญญา 8 ประการ ได้แก่
1. ปัญญาด้านภาษา
หมายถึง ความสามารถในการคิดเป็นภาษาพูดและการใช้ภาษาเพื่อแสดงออก และมีความชื่นชอบใน ความหมายที่สลับซับซ้อนของภาษา
2. ปัญญาด้านตรรกะและคณิตศาสตร์
ปัญญาด้านนี้ช่วยให้สามารถคิดตัวเลข คิดปริมาณ พิจารณาข้อสันนิษฐานและสมมติฐานต่าง ๆ และสามารถทำโจทย์คณิตศาสตร์ที่สลับซับซ้อนได้
3. ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์
ช่วยปลูกฝังความสามารถในการคิดเป็นสามมิติ(กว้าง ไกล และลึก)สามารถสร้างภาพ เปลี่ยนภาพหรือ ปรับภาพได้ ทำให้สามารถพาตนเองและวัตถุต่าง ๆ ผ่านไปในระยะทางหรือที่ว่างได้และสามารถสร้างหรือถอดรหัสหรือแปลความ ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในรูปของงานขีดเขียน(งานกราฟฟิก)ได้
4. ปัญญาด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย ช่วยให้การจับต้อง หรือจัดการกับวัตถุ ุและทักษะต่าง ๆ ทางกายภาพที่ละเอียดอ่อนได้
5. ปัญญาด้านดนตรี ช่วยให้มีความรู้สึกไวเกี่ยวกับเสียงสูงต่ำ ทำนองเพลง จังหวะดนตรี และน้ำเสียง
6. ปัญญาด้านรู้ผู้อื่น หมายถึง ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดี
7. ปัญญาด้านรู้ตนเอง หมายถึง ความสามารถในการรู้จักตนเอง หรือความสามารถในการสร้างและรับรู้ตนเองอย่างถูกต้อง และใช้ ความรู้นี้ในการวางแผนและชี้นำชีวิตตนเอง
8. ปัญญาด้านรอบรู้ธรรมชาติ ความสามารถในการสังเกตรูปแบบการเป็นอยู่ของธรรมชาติ สามารถกำหนดและจัดหมวดหมู่ สิ่งต่าง ๆ และเข้าใจระบบที่เป็นธรรมชาติ และระบบที่มนุษย์ทำขึ้น
ใจความสำคัญดังนี้ว่า ในยามที่ชีวิตจำเป็นต้องการความเฉลียวฉลาด และต้องการการตัดสินใจเฉียบแหลมเป็นกรณีพิเศษจริงๆ ต้องการปัญญาเพื่อแก้ไขปัญหา แก้ไขเรื่องวุ่นวายสับสน สติปัญญาที่จะแยกแยะว่าอะไรผิดอะไรถูก สิ่งไหนดี และสิ่งไหนไม่ดี
แต่หากเราจะสามารถมีสติปัญญาแบบเกิดนมนุษย์ธรรมดา หรือมีพหุปัญญา ความฉลาด 8 อย่าง (Multiple Intelligence)
ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากเย็น และแทบจะไม่มีหนทางเลย
แต่สำหรับพระวจนะของพระเจ้า ได้ไขหรือเปิดเผยเคล็ดลับสำคัญเพียงง่ายๆ ที่ท่านคนธรรมดาทั่วไปสามารถมีได้ เป็นไปได้ดังนี้
พระวจนะของพระเจ้าสอนไว้ว่าปัญญาจะเกิดขึ้นมาโดย
1.โดยการทูลขอจากพระเจ้า ยก 1:5-8 แล้วพระเจ้าจะประทานสติปัญญาความเข้าใจเหล่านั้นให้
ถ้าผู้ใดขาดสติปัญญา จงให้ผู้นั้นทูลขอจากพระเจ้า แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านไม่ต้องอ่านหนังสือ หรือไม่ต้องคิดอะไรเลย
-ตัวอย่าง : เด็กที่สอบโดยไม่อ่านหนังสือเลย พระเจ้าให้คะแนน 100 เต็ม แต่คะแนะจากการสอบได้ 0
-ตัวอย่างซาโลมอน 2พศด. 1:11 พระเจ้าตรัสตอบซาโลมอนว่า “เพราะว่าสิ่งนี้อยู่ในจิตใจของเจ้า และเจ้ามิได้ขอทรัพย์สมบัติ
ความมั่งคั่ง และเกียรติหรือชีวิตของคนเหล่านั้นผู้เกลียดชังเจ้า และทั้งมิได้ขอชีวิตยืนยาว แต่ได้ขอสติปัญญาและความรู้เพื่อตัวเจ้า
เอง เพื่อเจ้าจะครอบครองประชากรของเรา ผู้ซึ่งเราได้ตั้งเจ้าให้เป็นพระราชาเหนือเขานั้น
-ตัวอย่าง การแก้ไขปัญหาของซาโลมอน 1พกษ 3:24
2.โดยการรักพระวจนะ ศึกษาพระวจนะ และปฏิบัติตามพระวจนะ สดด 119:97-104
คริสเตียนยังสามารถ เตรียมความพร้อมให้ชีวิตของเรากลายเป็นคนคิดไว ทำไว และมองเห็นโจทย์ปัญหาได้ดียิ่งกว่าAbacus
พระวจนะของพระเจ้าจะทำช่วยทำให้เราเกิดสติปัญญา เกิดความเข้าใจพิเศษยิ่งกว่า
1.ฉลาดกว่าศัตรู
2.มีความเข้าใจมากกว่าบรรดาครู
3.มีความเข้าใจมากกว่าคนสูงอายุ
การนำไปใช้ :
- ดังนั้นคริสเตียนจะต้องให้ความสำคัญกับพระคำของพระเจ้ามากขึ้น โดยกระทำเช่นเดียวกับท่านเอสรา
อสร. 7:10 เพราะเอสราได้ตั้งใจของท่านที่จะศึกษาธรรมบัญญัติของพระเจ้า และกระทำตามและสอนกฎเกณฑ์และกฎหมายของพระองค์ในอิสราเอล
- ขอพี่น้องตระหนักดีๆว่าการที่เราจะอ่าน จะศึกษาพระคำของพระเจ้า และกระทำตามคำสอนของพระเจ้าจะเป็นต้องมีความ ( ตั้งใจ) เพราะอะไรเราถึงต้องมีความตั้งใจ เพราะว่ามันมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น เหมือนพี่สาวกับน้องชายที่มักจะขัดแย้งกันบ่อยๆ ระหว่างนายขยัน กับนายขี้เกียจ
-ขอให้พี่น้องตั้งเวลาส่วนตัวในการอ่านพระคำ การตั้งเวลาศึกษาพระคำ ท่องจำพระคำ ปฏิบัติตามพระคำ เพื่อชีวิตของเราจะมีพระพรมากมาย สติปัญญาจะเกิดขึ้น
ตัวอย่าง : นักเทศน์ท่านหนึ่ง หลังเทศนาก็ให้การบ้านสมาชิกเอาตะกร้าไปจุ่มน้ำวันละ 3 ครั้ง แล้วก็ทำรายงานมาส่งในสัปดาห์ต่อไป คุณยายก็แปลกใจมากๆ เพราะตักน้ำไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย แต่ก็กระทำตามที่อาจารย์บอกทุกประการ เช้าวันหนึ่งจึงถามอาจารย์ขึ้นมาว่า ทำไมอาจารย์จึงให้การบ้านแบบนี้ ? อาจารย์จึงตอบไปว่า การเอาตะกร้าจุ่มลงไปในน้ำแต่ละครั้ง แม้ว่าไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย แต่สังเกตเห็นไหมว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง อย่างน้อยก็เห็นว่าตะกร้านั้นสะอาดขึ้นใช่ไหม?
เช่นเดียวกัน พี่น้องก็อย่าท้อถอยในการอ่านพระคำของพระเจ้า แม้ว่าอ่านพระคัมภีร์แล้วก็งงๆ ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ แต่ก็ควรจะอ่านเสมอๆ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้จิตใจของเราสะอาดขึ้น เมื่อเราทำบาปอะไรลงไปก็จะทำให้เราสำนึกขึ้นมาได้
ถ้าเราต้องการที่จะมีสติปัญญาจากพระเจ้ามากกว่า ศัตรู มากกว่าครู มากกว่าคนสูงอายุ ก็อย่าลืมอ่านพระคำของพระเจ้า แล้วพระพรของพระเจ้าจะเกิดขึ้นดั่ง สุดุดี 1 เกิดผลตามฤดูกาล ใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง การงานทุกอย่างที่กระทำก็จำเริญขึ้น