ใครเล่า... ลืมพระเจ้า?
เรื่อง ใครเล่า... ลืมพระเจ้า?
โดย ศจ.มานา ศิริเธียรวานิชกุล
http://www.phenixthai.com/th/index.php
ในโลกทุกวันนี้เราอยู่กันแบบ ตัวใครตัวมัน เราไม่ค่อยจะสนใจกันและกันและยิ่งกว่านั้นเราไม่สนใจแม้กระทั่งความรู้สึกของคนรอบข้างด้วยทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยการแก่งแยงชิงดีชิงเด่นกันมากขึ้นเราไม่อยากให้ใครดีหรือเก่งเกินหน้าตาของเราเราพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยกำลังความสามารถของเราอย่าเต็มที่ทำทุกวิถีทางที่จะได้มาซึ่งความสำเร็จและการยอมรับจากคนรอบข้าง(รวมทั้งคนแปลกหน้าด้วย)เราสามารถลงทุน หรือห่วิธีที่จะพัฒนาศักยภาพ บุคลิกภาพ
อะไรที่เราไม่เคยทำหรือทำไม่ได้ เราจะต้องทำให้ได้คริสเตียนเองก็ไม่ได้มีความแตกต่างไปจากคนที่ไม่เป็นคริสเตียน
เราอยู่ในสังคมของคนไม่เป็นคริสเตียน เราถูกสังคมรอบข้างขนาบเราตลอดเวลาและคริสเตียนก็พยายามทำตนให้เป็นที่ยอมรับในสังคมโดยที่หลายครั้งเราก็อาจจะอ้างว่า เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีเพื่อเขาจะเห็นพระเจ้าของเรา เพื่อ...... อะไรต่อมิอะไรอีกมากมายในระหว่างทางที่เราพยายามทำตนให้เป็นที่ยอมรับหรือให้เรามีความสามารถนั้น เรามักลืมนึกหรือมองข้ามไปว่าพระเจ้าของเรานั้นทรงสามารถมากมายเกินกว่าเราจินตาการหรือนึกคิดเองได้เราพยายามเหมือนกับคนทั่วๆไปที่พยายามกันเราลงทุนเหมือนที่พวกเขาลงทุนกัน เราทำสิ่งสารพัดเหมือนที่พวกเขาทำกันพระคริสตธรรมคัมภีร์กล่าวไว้ว่า ....
จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบจงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่านข้อพระคัมภีร์ข้อนี้ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้วหากแต่เรามักโดนสังคมหรือความคิดแบบโลกสอนเรามาตั้งแต่เด็กแล้วว่าหากเราไม่ทำ พระเจ้าที่ไหนจะช่วย หากเราไม่หา พระเจ้าที่ไหนจะให้เราเราต้องลงมือทำด้วยจริงอยู่ที่ว่าเราต้องทำในส่วนของเรา หากเราอ่านพระคัมภีร์อย่างรอบคอบ(ไคร่ครวญ ภาวนา ) เราจะพบว่า เราเพียงแค่ยอมรับในความอ่อนแอหรือความบกพร่อง ยอมรับในความสามารถอันยิ่งใหญ่และพระปัญญาของพระเจ้าเราจะได้รับตามพระสัญญานั้นนี่เป็นสาเหตุที่ว่า ใครเล่า ลืมพระเจ้าเราเองเป็นคนนั้น คนที่ไม่ยอมรับว่าตนเองอ่อนแอ ตนเองไร้ความสามารถเราเองต้องการพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าในทุกเรื่อง ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีเรื่องใดที่เราจะทำได้เลย แม้แต่เรื่องง่ายๆหากพระเจ้าไม่ทรงโปรดเราจะไม่สามารถทำได้เลยเราพบว่าแม้แต่การหายใจเข้าออกของเราในแต่ละวัน ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆแต่หากพระเจ้าไม่ทรงโปรด เราเป็นหวัดมีน้ำมูกเราจะไม่สามารถหายใจได้สะดวกพี่น้องที่เรา อย่าให้เราหลอกหรือหลงตัวเอง หรือหยิ่งในความสามารถของเราเราเองเป็นเพียงมนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมาผู้ถูกสร้างย่อมต้องพึ่งพาผู้สร้างเสมอผู้ถูกสร้างไม่สามารถดำเนินหรือพัฒนาต่อไปได้หากผู้สร้างไม่ช่วยทุกเวลานาที ขอให้เราพึ่งพาพระเจ้าทุกเรื่องที่เราทำขอให้เราพึ่งพาพระองค์ อย่าลืมพระเจ้า
อย่าคิดว่าเราทำได้แน่เพราะเป็นเรื่องง่ายๆพระเจ้าทรงอยู่ในท่านและกระทำกิจร่วมกับเราทุกเรื่องทุกเวลาหากเราไม่ลืมพระเจ้า ยอมรับพระองค์ พระองค์จะทรงอวยพระพรเราอย่างมากมายงานที่เราทำจะเกิดผลมากมายเกินกว่าที่เราคิดได้และคนทั้งหลายจะสรรเสริญพระเจ้าเพราะกิจการที่เราทำ
อาเมน
Shalom
(Phil 1:6 [ASV])
being confident of this very thing, that he who began a good work in you will perfect it until the day of Jesus Christ:
(ฟิลิปปี 1:6 [THSV 2011])
ข้าพเจ้าแน่ใจอย่างนี้ว่าพระองค์ผู้ทรงเริ่มต้นการดีไว้ในพวกท่าน จะทรงทำให้สำเร็จจนถึงวันแห่งพระเยซูคริสต์
(1Kgs 8:56 [ASV])
Blessed be Jehovah, that hath given rest unto his people Israel,
according to all that he promised: there hath not failed one word of
all his good promise, which he promised by Moses his servant.
(1 พกษ 8:56 [THSV 2011])
“สาธุการแด่พระยาห์เวห์ ผู้ประทานการหยุดพักแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์
ตามที่ทรงสัญญาไว้ทุกประการ
พระสัญญาอันดีทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งทรงสัญญาทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์นั้นไม่ล้มเหลวสักคำเดียว
"ถ้าเราเชื่อมั่นว่าทำได้ ต่อให้ต้องย้ายภูเขาถมทะเลในที่สุดก็สำเร็จจนได้
แต่ถ้าใจเราคิดว่าทำไม่ได้แม้จะง่ายแค่พลิกฝ่ามือ ก็ยังไม่มีวันประสบความสำเร็จ"
"If we can believe that. Need to move to a mountain filled the sea, in
turn, success ultimately
But if our hearts do not even think would be easy just turn the palm.
I also never succeed. "
Follow me on Facebook : facebook.com/masterkaros
facebook.com/phenixthai.com
my website : phenixthai.com
masterkaros.blogspot.com