แอพพลิเคชั่น ช่วยใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น !
ในยามที่ แอนเดรีย เดวิส เจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยเทนเนสซี น็อกซ์วิล รู้สึกหดหู่กับการทำงานดูแลที่จอดรถ เธอจะหลบเข้าไปในรถยนต์ส่วนตัวและเปิดฟังบทเทศน์ผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเธอ ซึ่งแอพพลิเคชั่นดังกล่าวพัฒนาขึ้นโดยโบสถ์ที่เธอไปเป็นประจำเดวิส วัย 45 ปี กล่าวว่า ไม่ว่าคนเราจะอยู่ที่ไหน ก็ควรมีจิตวิญญาณติดตัว และการฟังเทศน์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ห่างจาก โบสถ์
ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นเปิดเผยว่าโบสถ์กว่า 150 แห่งทั่วสหรัฐ มีแอพพลิเคชั่นเป็นของตัวเอง เพื่อติดต่อกับสมาชิกโบสถ์ผ่านอุปกรณ์สื่อสารพกพา อย่าง โทรศัพท์เคลื่อนที่ และแทบเล็ตแอพพลิเคชั่นของโบสถ์ถือเป็นการปรับตัวให้เข้ากับกระแสเทคโนโลยีที่ไหล บ่าไปทุกหนทุกแห่ง โดยมีให้เลือกตั้งแต่บทสวด ไปจนถึงการสารภาพบาปเหล่าศาสนาจารย์ กล่าวว่า เทคโนโลยีช่วยให้ศาสนิกชนใกล้ชิดศาสนาได้ตลอดเวลา ไม่ใช่เพียงแค่การไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นคาดว่า โบสถ์นับพันแห่งในสหรัฐ จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นของตัวเองในอีกไม่กี่ปี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้นับถือศาสนาแอพพลิเคชั่นพิเศษบางรายการช่วยให้ผู้ปกครองติดตามได้ว่า ลูกหลานเรียนรู้อะไรบ้างในโรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์ หรือช่วยแนะนำเคล็ดลับการสนทนาผู้นำโบสถ์ตั้งความหวังว่า แอพพลิเคชั่นเหล่านี้จะชักชวนให้วัยรุ่นเข้าร่วมกิจกรรมกับทางโบสถ์มากขึ้น และช่วยชี้นำจิตวิญญาณให้กับวัยรุ่นเหล่านี้
ทอม เวรย์ ที่ปรึกษาของสังฆมณฑลซินซิเนติ ซึ่งช่วยส่งเสริมแอพพลิเคชั่นของโบสถ์คาทอลิก กล่าวว่า โลกของวัยรุ่นอยู่ในไอโฟน อะไรที่อยู่นอกเหนือจากนั้นไม่ใช่ของจริงสำหรับพวกเขา
ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ โบสถ์หลักขนาดใหญ่ของนิกายโปรเตสแตนต์ต่างมีแอพพลิเคชั่นเป็นของตัวเอง ส่วนมากเป็นการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของโบสถ์ รวมถึงบล็อกของศาสนาจารย์ ปฏิทินกิจกรรมของโบสถ์ และกระดานข้อความให้ศาสนิกชนร้องขอหรือเสนอคำสวด
แมท แมคกี อดีตศาสนาจารย์และผู้ก่อตั้ง อาร์โอเออาร์ บริษัทพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับโบสถ์ กล่าวว่า บริษัทพยายามกระจายข้อความและเนื้อหาของโบสถ์แต่ละแห่ง เป็นการก้าวออกนอกกำแพงโบสถ์ในช่วงวันธรรมดา
ทางด้าน แซม ลูซ ศาสนาจารย์แห่งโบสถ์รีดีมเมอร์ ในอูติกา นิวยอร์ก ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมพิธีทางศาสนาเฉลี่ยประมาณ 1,700 คนในช่วงสุดสัปดาห์ กล่าวว่า มีผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของโบสถ์ไปแล้วประมาณ 3,700 ครั้ง
เฉพาะแท็บ “บทสวดมนต์” ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ร้องขอและยืนยันการสวดมนต์ มีผู้ใช้บริการเกือบ 14,000 ครั้ง นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือน พ.ค. 2553 และทางโบสถ์กำลังพิจารณาสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่สำหรับคนหนุ่มสาว
ศาสนาจารย์และเจ้าหน้าที่ทางศาสนา กล่าวว่า ผลตอบรับจากผู้ใช้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้เป็นไปในทางบวก แต่ก็มีผู้วิตกเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย โดยเฉพาะโบสถ์ขนาดเล็กที่ไม่มีแหล่งตรวจตรากิจกรรมอย่างใกล้ชิดแบบโบสถ์ ใหญ่ๆ
แรบไบแดน โคเอน แห่งโบสถ์แชรีย์ เทลฟิโล อิสราเอล ในเซาท์ออเรนจ์ นิวเจอร์ซีย์ ซึ่งอาศัยไอแพดและคินเดิลประกอบพิธีทางศาสนา และกิจกรรมต่างๆ ของโบสถ์ เป็นหนึ่งในผู้ที่ยังไม่ค่อยไว้ใจเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ดังนั้น จึงเลือกที่จะขยับตามเทคโนโลยีอย่างช้าๆ แม้ต้องการสร้างแอพพลิเคชั่น เพื่อให้สมาชิกชาวยิวได้ติดต่อกับโบสถ์
แรบไบโคเอน ย้ำว่า ต้องการความมั่นใจว่าสิ่งที่ทำลงไปจะช่วยรักษาคุณค่าของชุมชนเอาไว้
ที่โบสถ์เฟธ พรอมมิส ซึ่งมีศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีทางศาสนาประมาณ 4,300 คนในแต่ละสัปดาห์ อาสาสมัครจะช่วยกันตรวจสอบเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของโบสถ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรับประกันเนื้อหาที่เหมาะสม
จนถึงขณะนี้ บริษัทขนาดเล็ก 2 ราย ที่มักทำงานร่วมกัน ได้แก่ โมไบล์ โรดดี และอาร์โอเออาร์ แทบจะผูกขาดการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับโบสถ์ต่างๆ โดย แมคกี ก่อตั้ง อาร์โอเออาร์ เมื่อเดือน ม.ค. 2553
แมคกี กล่าวว่า โบสถ์เซเลเบรชั่น ในจอร์จทาวน์ เทกซัส เป็นโบสถ์แรกที่ใช้บริการการออกแบบแอพพลิเคชั่นของ อาร์โอเออาร์ เมื่อเดือน มี.ค. 2553 หลังจากนั้น ก็มีโบสถ์ประมาณ 60 แห่งตามมาในปีเดียวกัน และในปีนี้ มีโบสถ์อีกกว่า 90 แห่ง สั่งทำแอพพลิเคชั่นเฉพาะ
โบสถ์แต่ละแห่งต้องจ่ายค่าจัดตั้งแอพพลิเคชั่นประมาณ 500-700 ดอลลาร์ และจ่ายค่าโฮสติ้งอีกเดือนละ 35 ดอลลาร์ ขณะที่แอพพลิเคชั่นทั่วไปมีค่าใช้จ่ายหลายหมื่นดอลลาร์ ซึ่งแมคกี กล่าวว่า บริษัทของเขาหวังทำเงินผ่านช่องทางอื่นแทน เช่น การเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทที่ป้อนเนื้อหาให้แอพพลิเคชั่นของโบสถ์
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
แก้ไขล่าสุด (วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2012 เวลา 20:55 น.)