ธรรมชีวิต 31 กรกฎาคม - 6 สิงหาคม 2012
31 กรกฎาคม 2012
“สามัคคีธรรมของคริสเตียน”
และขอให้เราพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไรจึงจะปลุกใจซึ่งกันและกันให้มีความรักและความดี อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนที่ขาดอยู่นั้น แต่จงพูดหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะท่านทั้งหลายก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
ฮีบรู 10:24-25
คืนหนึ่งในฤดูหนาว พวกเรากำลังนั่งล้อมวงผิงไฟ ในขณะที่ลูกชายอายุแปดขวบเป็นคนที่คอยเฝ้ากองไฟให้ลุกอยู่เสมอ เขาจะคีบถ่านก้อนเล็ก ๆ จากกองไฟแล้วมองดูมันไหม้อยู่ชั่วขณะ ในไม่ช้ามันก็จะค่อย ๆ มอดลง แล้วเขาก็วางถ่านกลับลงบนกองไฟแล้วจ้องดูมันลุกโชนขึ้นมาอีก
ประสบการณ์นี้ทำให้ดิฉันเห็นสัจจะเกี่ยวกับชีวิตการเป็นคริสเตียน เราจำเป็นต้องมีสามัคคีธรรมร่วมกับผู้เชื่อคนอื่น ๆ เพื่อรักษาจิตวิญญาณให้ลุกโชติช่วงอยู่เสมอ และเพื่อหนุนใจตัวเองให้เป็นพยานที่อุทิศตน บางครั้งเราอาจหยุดไปโบสถ์ หรือไม่ไปสังสรรค์กับธรรมิกชนอื่น ๆ เพราะมีบางคนทำร้ายความรู้สึกของเราหรือเราไม่ชอบอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนั้น แต่เมื่อใดก็ตามที่เราห่างเหินจากคริสเตียนคนอื่น ๆ ไฟแห่งพระวิญญาณก็จะมอดไปพร้อมกับเรา และเราอาจจะสูญเสียความกระตือรือร้นที่จะเป็นพยานเพื่อพระคริสต์
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า โปรดรักษาบาดแผลและช่วยให้ข้าพระองค์ฟื้นคืนความสัมพันธ์กับธรรมิกชนอีกครั้ง ขอบพระคุณสำหรับฤทธานุภาพที่มาจากความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผู้เชื่อคนอื่นๆ ในนามแห่งองค์พระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
1 สิงหาคม 2012
“ไม่ยอมให้ช่วย!”
บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข
มัทธิว 11:28
ผู้หญิงคนหนึ่งติดอยู่บนยอดตึกซึ่งกำลังถูกไฟไหม้ เปลวไฟและกลุ่มควันได้ปิดกั้นทุกทางไว้จนเธอไม่สามารถหนีออกมาได้ เมื่อพนักงานดับเพลิงมาถึง หนึ่งในนั้นได้ปีนบันไดขึ้นไปตรงหน้าต่างที่หญิงผู้นั้นกำลังร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อไปถึงเขาได้เหยียดแขนออกไปเพื่อช่วยเธอ แต่เมื่อเธอมองลงมาเห็นระยะห่างจากตรงที่เธอยืนอยู่กับพื้นข้างล่าง เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและถอยกลับเข้าไปในห้อง
พนักงานซึ่งพยายามจะช่วยชีวิตของเธอได้ขอร้องให้เธอไว้ใจเขาเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง แต่ก็ไม่ได้ผล เธอถอยหลังไปด้วยความกลัวที่ไร้เหตุผลจนเขาเอื้อมไปไม่ถึง ในที่สุดเขาต้องปีนกลับลงมาและพูดพร้อมทั้งน้ำตาว่า “ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยเธอแล้ว แต่เธอไม่ยอมให้ผมช่วย!”
คำพูดของเขาทำให้ผมคิดถึงภัยฝ่ายวิญญาณที่ผู้คนมากมายกำลังประสบ พระเยซูปรารถนาจะยกโทษบาปให้กับพวกเขา แต่พวกเขากลับดื้อรั้นและปฏิเสธความช่วยเหลือจากพระองค์ พวกเขาไม่ไว้วางใจในพระองค์และต้องพบกับความพินาศเช่นเดียวกับหญิงที่ต้องตายอยู่ในกองเพลิงทั้งๆ ที่เธอมีทางทีจะหนีออกมาได้แล้ว
พี่น้องที่รัก จงเชื่อในพระเยซูเสียแต่เดี๋ยวนี้ พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้คุณมาหาพระองค์ (มธ. 11:28) อย่าได้อยู่ในบรรดาคนที่พระองค์ต้องตรัสว่า “เราได้ทำทุกสิ่งเพื่อช่วยเขาแล้ว แต่พวกเขาไม่ยอมให้เราช่วย!”
ข้าแต่พระเจ้าแห่งความรัก โปรดเปิดจิตใจและความคิดของข้าพระองค์เพื่อที่จะให้และรับความรักที่พระองค์ทรงสำแดงแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายโดยทางพระเยซูคริสต์เจ้า พระผู้ช่วยให้รอด ทูลขอในพระนามอันบริสุทธิ์ของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
2 สิงหาคม 2012
“แรงจูงใจของเราคืออะไร” ?
เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้านั้นการมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร
ฟิลิปปี 1:21
หนังสือเล่มหนึ่ง เล่าถึงเรื่องของมิสเตอร์โจนส์ ซึ่งเดินทางข้ามมหาสมุทรที่ปั่นป่วน เขาเกิดอาการเมาคลื่นอย่างรุนแรง ในสภาพที่ย่ำแย่นั้น มีพนักงานบนเรือผู้ใจดีเดินเข้ามาแตะไหล่ของเขาแล้วพูดว่า “ท่านครับ ผมทราบดีว่ามันแย่แค่ไหน แต่ท่านอย่าลืมนะครับว่า ยังไม่มีใครเคยเสียชีวิตเพราะเมาคลื่นเลยสักคน” เขาจึงเงยหน้าซีด ๆ ขึ้นพร้อมกับพูดว่า “อย่าพูดอย่างนั้นสิไอ้หนุ่ม เพราะความตายเป็นความหวังอันสวยงามเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ฉันยังมีชีวิตอยู่”
คำพูดของมิสเตอร์โจนส์มีสิ่งที่น่าคิดมากกว่าเป็นแค่การประชดประชัน ผมได้ยินเสียงสะท้อนของเปาโลที่พูดกับชาวเมืองฟีลิปปีว่า ความหวังของการจากไปอยู่กับพระเจ้านั้นทำให้ท่านยังคงดำเนินต่อไป (1:21) ท่านไม่เพียงแต่รอคอยการปลดปล่อยจากความทุกข์ทรมาน แต่ความหวังของท่านหยั่งรากลึกในพระคริสต์ ผู้ทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อคนบาป และทรงฟื้นคืนพระชนม์ ผู้ยังทรงพระชนม์อยู่ในสวรรค์ และจะเสด็จมารับท่านไปอยู่กับพระองค์ในวันหนึ่ง
แต่ความหวังที่จะได้พบพระคริสต์ ไม่ว่าจะโดยความตายหรือเมื่อพระองค์เสด็จกลับมา ช่วยให้เปาโลมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร? มันทำให้ทุกนาทีของท่านมีความหมาย ทำให้ท่านมีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อพระนามของพระองค์ และเป็นแรงจูงใจให้ท่านเอาใจใส่ผู้ที่ต้องการคำหนุนใจ เปาโลรู้จักพระคริสต์ราวกับชีวิตของท่านเอง
พระบิดาเจ้าข้า ขอบพระคุณสำหรับพระคริสต์ผู้ทรงฟื้นคืนพระชนม์ผู้เป็นเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของเรา ในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน
ข้าแต่พระเจ้าแห่งชีวิต โปรดให้ข้าพระองค์หันกลับมาหาแสงสว่างของพระองค์ทุกวัน เพื่อข้าพระองค์จะเติบโตเป็นคนที่พระองค์ทรงต้องการให้ข้าพระองค์เป็น กราบทูลในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
3 สิงหาคม 2012
“บาปในอดีต”
แต่บัดนี้อย่าเสียใจไปเลยอย่าโกรธตัวเองที่ขายเรามาที่นี่ เพราะว่าพระเจ้าทรงใช้เราให้มาก่อนหน้าพี่ เพื่อจะได้ช่วยชีวิต
ปฐมกาล 45:5
เมื่อโยเซฟเปิดเผยตัวต่อพวกพี่ชายที่ขายเขามาเป็นทาสนั้น พวกเขาถึงกับพูดไม่ออกและ “ตกใจกลัวที่เผชิญหน้ากับโยเซฟ” (ปฐก. 45:3) ความกลัวและความรู้สึกผิดทำให้พวกเขาหวนคิดถึงความเจ็บปวดที่ได้ก่อไว้กับยาโคบ บิดาผู้ชราภาพ และน้องชายของตัวเอง ก่อนที่เมล็ดพันธุ์แห่งการกล่าวโทษตัวเองจะหยั่งรากลงในใจของพวกเขา โยเซฟซึ่งในเวลานั้นตระหนักดีว่าพวกพี่ชายของเขารู้สึกอย่างไร จึงรีบสร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกเขา โดยกล่าวว่า อย่าเสียใจไปเลย อย่าโกรธตัวเองที่ขายเรามาที่นี่ เพราะว่าพระเจ้าทรงใช้เราให้มาก่อนหน้าพี่เพื่อจะได้ช่วยชีวิต” (ข้อ 5) โยเซฟตระหนักด้วยพระเจ้าทรงใช้ความทุกข์ยากในชีวิตของท่านเพื่อประโยชน์ของคนอีกมากมาย
หากเราทำบาปและทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวด เราก็จะตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับพวกพี่ชายของโยเซฟ และเมื่อนั้นเองที่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะย้ำเตือนเราถึงราคาที่พระเยซูต้องจ่ายเพื่อชำระความบาปผิดให้กับเราบนกางเขน แท้จริงแล้วพระองค์กำลังบอกกับเราว่า “อย่าไปเสียใจหรือโกรธตัวเองเลย”
หากคุณยังคงตำหนิตัวเองหลังจากที่ได้สารภาพบาปต่อพระเจ้าแล้ว ลองคิดให้ดีว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ คุณกำลังฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับบาปของคุณด้วยการโมโหตัวเอง หากคุณต้องการเอาชนะสิ่งนี้ จงจดจ่อที่พระผู้ช่วยให้รอดไม่ใช่ที่บาปของคุณ จงคิดถึงสิ่งที่พระองค์ทำ ไม่ใช่สิ่งที่คุณทำ เพราะพระเยซูทรงยกโทษบาปให้กับคุณ คุณจึงสามารถ “ลืม” บาปของ คุณได้แล้ว
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงส่งพระคริสต์มารับประทานอาหารกับคนบาปเช่นข้าพระองค์ และมาเปลี่ยนชีวิตของข้าพระองค์ อธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
4 สิงหาคม 2012
“ถ้อยคำที่ทำให้สำนึก”
เมื่อพระเยซูทรงเห็นความเชื่อของเขาทั้งหลาย พระองค์จึงตรัสกับคนง่อยว่า “ลูกเอ๋ยบาปของเจ้าได้รับอภัยแล้ว”
มาระโก 2:5
หนุ่มเลี้ยงวัวซึ่งไม่เคยสนใจเรื่องพระเจ้าได้เดินทางไปยังเมืองหลวง และใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาด้วยเงินทั้งหมดที่เขาหามาได้จากการเลี้ยงวัวในทุ่ง คืนหนึ่งเขาได้เดินโซซัดโซเซกลับมายังห้องพักในโรงแรมและหลับไปจนสายของอีกวันหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมา เขาเห็นหนังสือเล่มเล็กๆ วางอยู่บนโต๊ะใกล้กับหัวเตียง เขาหยิบมันขึ้นมาดูและพบว่าเป็นพระธรรมมาระโก เขาโยนมันลงไปบนพื้นด้วยความรังเกียจ
ค่ำวันนั้นหนังสือเล่มดังกล่าวก็กลับมาวางอยู่ข้างเตียงอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ามันยังอยู่ที่เดิมในวันที่ 3 เขาจึงตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาอ่าน และพบว่าหนังสือเล่มดังกล่าวน่าสนใจจนเขาวางไม่ลง เขาได้เป็นพยานในเวลาต่อมาว่า “ผมได้เรียนรู้ว่าพระเยซูทรงตรัสกับชายที่เป็นง่อยว่า ‘บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว’ และรู้สึกชื่นชมหญิงม่ายที่ถวายเงินสองเหรียญสุดท้ายที่มีอยู่ให้กับพระเจ้า ผมประทับใจที่พระเยซูทรงอุ้มเด็กๆ ขึ้นมาและอวยพรพวกเขา จากนั้นถึงแม้ว่าพระองค์จะได้รับการปฏิบัติอย่างไร้ความยุติธรรม แต่พระองค์ยังเสด็จไปที่กางเขนเพื่อช่วยคนบาปให้รอด เมื่อผมรู้ว่าเหตุใดพระองค์ต้องสิ้นพระชนม์ ผมก็มองเห็นบาปของตัวเองและพบกับสันติสุขเมื่อได้เชื่อวางใจในพระองค์” นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หนุ่มเลี้ยงวัวก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคน เขาใช้เวลาหลายปีในการแจกจ่ายพระธรรมมาระโกให้กับคนอื่นๆ
เช่นเดียวกัน เราต้องนำถ้อยคำที่ทำให้สำนึกไปถึงผู้คนให้ได้มากที่สุด ข่าวประเสริฐนั้นมีฤทธิ์อำนาจอย่างแท้จริง
ข้าแต่พระเจ้าแห่งการให้และความรัก ขอบพระคุณสำหรับสารพัดของประทานและความสามารถที่แตกต่างกันที่ทรงประทานให้ข้าพระองค์ทั้งหลาย โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ไว้วางใจในพระองค์ที่จะพัฒนาพรสวรรค์เหล่านั้นที่อยู่ในตัวของข้าพระองค์ และใช้เพื่อพระสง่าราศีของพระองค์ กราบทูลในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
5 สิงหาคม 2012
“เมื่อตะวันลับฟ้า”
...แต่เวลาเย็นจะมีแสงสว่าง
เศคาริยาห์ 14:7
ความเป็นหนุ่มสาวนั้นแสนวิเศษ ทั้งสายตาดี ได้ยินชัดเจน ฝีก้าวก็ยืดหยุ่น ชีพจรเต้นสอดรับกับสุขภาพที่แช่มชื่น แต่วัยชรานั้นมีราศีที่วัยหนุ่มสาวไม่อาจรู้ได้วัยชราจะมีความสุข หากลงเอยอย่างยามเย็นที่สุกสว่าง
วัยชราเป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวสิ่งที่หว่านไว้เมื่อวัยหนุ่มสาวเหมือนผลไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ผลที่เก็บเกี่ยวในวัยชราอาจมีทั้งเหี่ยวแห้ง และร่วงโรยหรืออาจโตเต็มที่และหวานยิ่งขึ้นเมื่อสุกงอม
คุณไม่อาจหลีกพ้นเดือนปีที่หมุนไปข้างหน้า วัยหนุ่มสาวนั้นอยู่นานเพียงพอ ก็เพื่อจะทำให้ไหล่บ่าของเราแข็งแรงพอที่จะแบกรับภาระข้างหน้า ชีวิตมุ่งสู่ยามเย็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือสิ่งที่เก่าแก่ที่สุด เพราะนั่นคือสิ่งที่ทนทานและยืนหยัดผ่านการทดสอบของกาลเวลา พระเจ้าพระองค์เอง แม้ว่าพระองค์จะไม่ได้ถูกจำกัดด้วยกาลเวลา พระองค์ก็ทรงถูกเรียกว่า ผู้เจริญด้วยวัยวุฒิ (ดนล. 7:9)
ดังนั้น อย่าอายหากคุณสูงอายุ ทุกสิ่งที่มีอยู่ต้องมีอายุมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภูเขา แม่น้ำ มหาสมุทร ดวงดาว
แต่ยามเย็นของชีวิตสุกใสได้ เพียงถ้าเรามีพระองค์ผู้ทรงเป็นความสว่างทรงเป็นดวงอาทิตย์ยามเย็นของเรา เป็นเรื่องเศร้าที่สุด ที่คนมีอายุต้องเผชิญกับนิรันดร์กาลโดยไม่มีพระเยซู และที่หวานชื่นที่สุดก็คือคริสเตียนผู้แช่มชื่นซึ่งยังคงเติบโตขึ้นและพักพิงในพระคริสต์ เมื่อเขาเผชิญวันพรุ่งนี้ของพระเจ้าด้วยความมั่นใจ
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับความอบอุ่นที่ทรงประทานให้ในแต่ละวัน แต่ละฤดูกาลแห่งชีวิตอธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
6 สิงหาคม 2012
“งูกะปะซ่อนอยู่”
ความเย่อหยิ่งของคนนำเขาให้ต่ำลง แต่คนที่มีใจถ่อมจะได้รับเกียรติ
สุภาษิต 29:23
เมื่อตอนที่ผมเป็นเด็ก ครอบครัวของเราอาศัยอยู่ในชนบท และในฤดูหนาวครั้งหนึ่งเราฆ่างูกะปะตายไปถึง 3 ตัว ในเวลาไม่นานเราสามารถฆ่างูกะปะได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เรารู้ว่ามันอยู่ไหนและระยะโจมตีของมันอยู่ไกลเพียงใด ดังนั้น ผมกับพี่น้องจึงไม่กลัวงูที่เรามองเห็น แต่สิ่งที่เรากลัวจริงๆ ก็คือการเหยียบลงไปบนงูที่เรามองไม่เห็นมากกว่า
กษัตรย์เฮเซคียาก็ถูกการทดลองที่แอบแฝงเข้ามา “กัด” อย่างลับๆ พระองค์ได้ถูกล่อลวงด้วยสิ่งชั่วร้ายที่ปรากฏให้เห็นชัด ๆ แต่พระองค์ปล่อยให้ความเย่อหยิ่งและการพึ่งพาตนเองเข้ามาทำลายการงานของพระองค์ ทั้งที่ควรจะมอบความไว้วางใจทั้งหมดไว้กับพระเจ้าผู้ทรงสามารถปกป้องพระองค์จากบรรดาศัตรู แต่พระองค์กลับไปแสวงหาการคุ้มครองจากพันธมิตรซึ่งเป็นพวกที่นับถือรูปเคารพ (2 พศด. 32:25-31)
น่าเสียดายที่กษัตริย์ซึ่งน่าจะดีกลับต้องมาล้มเหลวในการปกครองประเทศเพราะบาปของตน เราจำเป็นต้องเฝ้าระวังอยู่เสมอ หากเราไม่ต้องการให้เกิดความเย่อหยิ่งขึ้นในจิตใจจนทำให้เราพ่ายแพ้ต่ออุบายของศัตรูเช่นเดียวกับกษัตริย์เฮเซคียาห์ เราอาจเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับความบาปที่เห็นได้ชัดว่าจะนำความเสื่อมเสียมา แต่เราอาจไม่ได้พร้อมสำหรับการทดลองที่แอบแฝงเข้ามาอย่างแนบเนียน จงระวัง “งูกะปะที่ซ่อนอยู่” ให้ดี เพราะพวกมันอันตรายกว่าอะไรทั้งสิ้น!
ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงรักและเมตตา ข้าพระองค์ขอสรรเสริญพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ โปรดให้อภัยเมื่อข้าพระองค์หลงผิดไปจากทางของพระองค์ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ดำเนินชีวิตไปตามทางของพระองค์ ขอบพระคุณสำหรับพระเมตตาคุณและความรักของพระองค์ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
แก้ไขล่าสุด (วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2012 เวลา 14:48 น.)