ธรรมชีวิต 15-20 สิงหาคม 2012
15 สิงหาคม 2012
“ไม่เพียงพอ”
เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียตัวของตนเองผู้นั้นจะได้ประโยชน์ อะไร
ลูกา 9:25
ผู้เขียนปัญญาจารย์กล่าวว่า ความเพลิดเพลินการมีทรัพย์สมบัติมากและความรู้สูง ไม่ได้นำความพึงพอใจที่ยั่งยืนมาให้ แต่พระเยซูตรัสยิ่งกว่านั้นว่า ผู้ที่ได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับนิรันดร์กาลก็เป็นคนที่ยากจน ฝ่ายวิญญาณ ชื่อเสียง เงินทอง และความสนุกสนานนั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้เราได้รับความพึงพอใจ อัน สมบูรณ์
ผมนึกถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ฆ่าตัวตาย ซึ่งมีทั้งนักเบสบอล คนในวงการบันเทิง และรวมไปถึงทายาทมรดกมูลค่ามหาศาล ผมยังจำนักวิชาการซึ่งเป็นที่นับถืออย่างมากคนหนึ่งกับภรรยาของเขาได้ ทั้งสองกินยาเกินขนาดเมื่อทราบว่าเธอป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย คนเหล่านี้ไม่เข้าใจความหมายของการมีชีวิตอยู่
เนื่องจากเราทั้งหลายถูกสร้างขึ้นตามพระฉายาของพระเจ้า ชีวิตของเราย่อมถูกสร้างอย่างมีจุดประสงค์ทั้งสำหรับเวลานี้และนิรันดร์กาล พระเจ้าสร้างเราเพื่อพระสิริของพระองค์และกำหนดให้เราอยู่ในโลกเพื่อถวายพระเกียรติ ดังนั้น เราจึงมีความสามารถในการไตร่ตรองถึงพระองค์และชีวิตนิรันดร์
การเชื่อว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของเรา และทรงฟื้นคืนพระชนม์จะช่วยให้เราพบกับความมุ่งหมายของชีวิต ความรอดนำมาถึงความเชื่อมั่นว่าเราได้รับการอภัยแล้ว เรามีวัตถุประสงค์นิรันดร์และมีความหวังเรื่องสวรรค์เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชีวิตของเราพบกับความชื่นชมยินดี และสันติสุขอันล้ำลึก คุณว่ามั้ย?
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับของประทานแห่งความอยู่ดีกินดีและสุขกายสบายใจที่ทรงประทานแก่ข้าพระองค์ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์แบ่งปันเวลาเหล่านั้นในการบรรเทาใจและช่วยเหลือใครสักคนในวันนี้ ในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
16 สิงหาคม 2012
“อยู่ผิดที่”
แล้วโยนาห์ก็อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจากภายในท้องปลา…
โยนาห์ 2:1
ขณะที่เดินผ่านโรงนาของผมในวันหนึ่ง ผมได้ยินเสียงตะเบ็งดังลั่นมาจากข้างใน และเมื่อเข้าไปดู ผมก็พบนกบลูเจย์ (นกกินปลาตัวใหญ่) กำลังใช้ปีกของมันตีกระจกหน้าต่าง ถ้ามันไม่ร้องและแผดเสียงดังผมก็คงไม่ได้ยินมัน แต่เสียงโหยหวนของมันทำให้ผมเปิดประตูเข้าไปและมันก็บินออกมาสู่อิสรภาพ
เจ้านกใม่ได้อยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่ โยนาห์ก็เข้าไปอยู่ในที่ที่แปลกสำหรับมนุษย์ทั่วไป เพราะความดื้อดึง โยนาห์จึงถูกโยนลงไปในทะเล ถูกปลาใหญ่กลืนเข้าไป และติดอยู่ในท้องของมัน แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นผลมาจากความผิดของท่านเอง แต่พระเจ้าก็ทรงอยู่ที่นั่นเพื่อสดับฟังคำอธิษฐานของท่านด้วย และเมื่อท่านสารภาพบาป พระเจ้าก็ทรงช่วยกู้ท่าน
บางครั้งลูกๆ ของพระเจ้าก็นำพาตัวเองเข้าไปในสถานที่ที่ไม่ควรจะไปหรือในสถานการณ์ที่ไม่น่าอภิรมย์เพราะความโง่ของตัวเอง คุณกำลังอยู่ผิดที่หรือไม่? คุณขาดการสามัคคีธรรมกับพระเจ้า รู้สึกพ่ายแพ้ และไม่ดีความสุขอยู่หรือไม่? จงร้องหาพระเจ้าสารภาพบาปต่อพระองค์ และรับการฟื้นใจผ่านทางพระเมตตาอันอุดมของพระองค์ (1 ยน.1:9) พระเจ้ากำลังรอฟังเสียงร้องอันแผ่วเบาที่สุดของคุณและรอให้คุณกลับใจ
บางทีการที่คุณอยู่ผิดที่ในวันนี้อาจเป็นผลมาจากการตัดสินใจอันโง่เขลาของคุณเอง แต่พระองค์ทรงอยู่ด้วยกับคุณและกำลังรอฟังเสียงร้องของคุณอย่ารอให้ถึงพรุ่งนี้
ข้าแต่พระเจ้าแห่งชีวิต โปรดให้ข้าพระองค์หันกลับมาหาแสงสว่างของพระองค์ทุกวัน เพื่อข้าพระองค์จะเติบโตเป็นคนที่พระองค์ทรงต้องการให้ข้าพระองค์เป็น กราบทูลในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
17 สิงหาคม 2012
“ผ้าขี้ริ้วชิ้นเอก”
ลูกน้อยของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าต้องเจ็บปวดเพราะท่านอีก จนกว่าพระคริสต์จะก่อร่างขึ้นในตัวท่าน
กาลาเทีย 4:19
ศิลปินคนหนึ่งถูกกล่าวหาอย่างผิดๆ ว่าเป็นอาชญากรและถูกจับเข้าคุก แม้จะได้รับอนุญาตให้เอาแปรงและสีเข้าไปได้มีแต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะหาผ้าใบจากที่ไหน
วันหนึ่งด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง เขาได้ขอร้องให้ผู้คุมช่วยหาอะไรก็ได้ที่เขาจะสามารถวาดภาพลงไปได้ ผู้คุมหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เก่าและสกปรกผืนหนึ่งโยนให้เขาอย่างไม่แยแส พร้อมกับพูดว่า “เอ้า ดูสิว่าแกจะทำอะไรกับไอ้ผ้าเช็ดหน้าสกปรกๆ ผืนนั้นได้บ้าง ”
ศิลปินซึ่งเป็นคริสเตียนคนดังกล่าว จึงลงมือวาดภาพพระพักตร์ของพระเยซูตามความคิดของเขา หลังจากที่ได้ใช้เวลาและความอุตสาหะในการวาดภาพชิ้นนี้ เขาคิดไว้ว่าจะให้ผู้คุมที่เอาผ้าสกปรกมาให้เขาใช้วาดแทนผ้าใบได้ดูภาพดังกล่าวเป็นคนแรก เมื่อผู้คุมดูภาพวาดที่งดงามนั้น เขาก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ภาพดังกล่าวได้กลายเป็นภาพที่มีชื่อเสียงในเวลาต่อมา
หากชายคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนผ้าขี้ริ้วที่ทั้งเก่าและสกปรก ให้กลายเป็นภาพที่งดงามจนทำให้ผู้คุมนักโทษซึ่งไม่สนใจไยดีอะไรร้องไห้ได้ ลองคิดดูว่าองค์ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่จะสามารถทำอะไรกับชีวิตของเราหากเรายอมเปิดทางให้พระองค์เข้ามา
ในสภาพที่เต็มไปด้วยความบาปของเรา เราก็ไม่ต่างอะไรกับ “ผ้าขี้ริ้วที่สกปรก” และปราศจากความงดงามในฝ่ายวิญญาณ แต่ถึงกระนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็สามารถเปลี่ยนแปลงเราให้กลายเป็นผลงานชิ้นเอกแห่งพระคุณ!
ข้าแต่พระเจ้าแห่งการให้และความรัก ขอบพระคุณสำหรับสารพัดของประทานและความสามารถที่แตกต่างกันที่ทรงประทานให้ข้าพระองค์ทั้งหลาย โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ไว้วางใจในพระองค์ที่จะพัฒนาพรสวรรค์เหล่านั้นที่อยู่ในตัวของข้าพระองค์ และใช้เพื่อพระสง่าราศีของพระองค์ กราบทูลในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
18 สิงหาคม 2012
“งานซึ่งพระเจ้าทรงมีส่วน”
และว่าเป็นของประทานจากพระเจ้าแก่มนุษย์ ที่จะให้มนุษย์ได้กินดื่มและเพลิดเพลินในบรรดา
การงานของเขา
ปัญญาจารย์ 3:13
วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของสัปดาห์ใหม่ สำหรับหลายคน วันจันทร์หมายถึงการเริ่มต้นวัฏจักรการทำงานที่แสนจะน่าเบื่ออีกครั้ง บางทีมันอาจจะหมายถึงการที่ต้องซักรีดเสื้อผ้ากองโต การบรรจุชิ้นส่วนที่เครื่องจักรผลิตออกมาตลอดเวลา หน้าที่แสนจำเจในแผนกประกอบชิ้นส่วน หรือการนั่งเซ็งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน
งานที่ซ้ำซากอาจเป็นสนามเพาะพันธุ์ความอิจฉา และความไม่พอใจ หรืออาจเป็นสนามฝึกที่จะพัฒนาลักษณะนิสัยและชีวิตแห่งการรับใช้ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถมองเห็นพระเจ้าในหน้าที่ธรรมดาๆ ที่เราทำอยู่หรือไม่
มีผู้หญิงคนหนึ่งในเมืองบอสตันซึ่งทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดอยู่ที่อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งเป็นเวลานานถึง 40 ปี เธอได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวคนหนึ่งซึ่งถามว่าเธอทนทำงานที่ซ้ำซากอย่างนี้ทุกวันได้อย่างไร ผู้หญิงคนนั้นตอบว่า “ฉันไม่ได้รู้สึกเบื่อ ฉันใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่พระเจ้าทรงสร้าง ฉันทำความสะอาดสิ่งซึ่งเป็นของผู้คนที่พระเจ้าทรงสร้าง และฉันทำให้ชีวิตของพวกเขาสะดวกสบายขึ้น ไม้ถูพื้นของฉันคือพระหัตถ์ของพระเจ้า!”
คุณกำลังมองหาพระผู้สร้างในงานที่คุณทำอยู่หรือไม่? พระองค์ทรงอยู่ที่นั่น พระองค์ทรงใช้มือ ร่างกาย และจิตใจของผู้ที่ยอมรับงานของตนและทำงานนั้นเพื่อพระองค์ ไม่ว่าเราจะทำงานประจำใด ๆ เราก็ให้พระเจ้าทำงานของพระองค์ในชีวิตของเรา หรือผ่านทางชีวิตขึ้นเราได้ทั้งในเวลานี้และตลอดไป
ข้าแต่พระเจ้าแห่งชีวิต โปรดให้ข้าพระองค์หันกลับมาหาแสงสว่างของพระองค์ทุกวัน เพื่อข้าพระองค์จะเติบโตเป็นคนที่พระองค์ทรงต้องการให้ข้าพระองค์เป็น กราบทูลในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
19 สิงหาคม 2012
“ชีวิตจริง”
เมื่อข้าพระองค์กลัว ข้าพระองค์วางใจในพระองค์
สดุดี 56:3
ในการ์ตูนพีนัท (Peanuts) ลูซี่ได้บอกกับลินัสว่าเด็กๆ ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านไปตลอดในที่สุดพวกเขาก็จะโตเป็นผู้ใหญ่และย้ายออกไปแล้วเธอก็บอกว่า เมื่อเขายายออกไปเธอก็จะได้ครอบครองห้องของเขาแทน แต่ลินัสรีบเตือนเธอทันทีว่า เมื่อถึงเวลาหนึ่งเธอก็ต้องออกจากบ้านไปเหมือนกัน พอลูซีนึกขึ้นมาได้ เธอก็รู้สึกตกใจ แต่ก็รีบหาทางออกด้วยการเร่งเสียงโทรทัศน์ให้ดังขึ้นคลานขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับไอศครีมถ้วยหนึ่งและไม่ยอมคิดถึงเรื่องดังกล่าวอีก
การหลีกหนีจากสถานการณ์ที่ไม่น่าพิศมัยนั้นมันไม่ง่ายอย่างที่ลูซี่คิด ไม่มีใครสามารถหนีความจริงของชีวิตได้เราอาจจะพยายามวิ่งหนีและไปซ่อนตัว แต่อุปสรรคและการทดลองต่างๆจะสะกดรอยตามเรามาและในที่สุด มันจะตามเราทัน
แทนที่จะวิ่งหนี เราควรจะเผชิญหน้ากับปัญหาของเรา ดาวิดก็ทำเช่นนั้นขณะที่ถูกล้อมโดยบรรดาศัตรูที่ไม่ยอมลดละและสหายจอมปลอม เขาไม่ได้พยายามประเมินอันตรายของตัวเองให้ต่ำ แต่เขารับรู้ถึงพายุที่กำลังพัดกระหน่ำอยู่รอบๆ ตัวและมองไปที่พระเจ้า เขากล่าวว่า “ในพระเจ้าข้าพระองค์วางใจ” (สดด. 56:4)
ให้เราเลียนแบบดาวิด ไม่ใช่ลูซี่ การเผชิญหน้ากับปัญหาของชีวิตอาจจะเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัว แต่เมื่อเราวางใจในพระเจ้าและเข้าไปใกล้พระองค์เราจะได้รับการช่วยกู้อย่างแท้จริง
ข้าแต่พระเจ้าแห่งชีวิต โปรดให้ข้าพระองค์หันกลับมาหาแสงสว่างของพระองค์ทุกวัน เพื่อข้าพระองค์จะเติบโตเป็นคนที่พระองค์ทรงต้องการให้ข้าพระองค์เป็น กราบทูลในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
20 สิงหาคม 2012
“จงรักษาคำพูด”
จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ พูดแต่เพียงนี้ก็พอ คำพูดเกินนี้ไปมาจากความชั่ว
มัทธิว 5:37
ไม่นานก่อนจะสิ้นชีวิต ดยุคแห่งเบอร์กันดีเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรีของฝรั่งเศสในการประชุมดังกล่าว บรรดารัฐมนตรีได้ยื่นข้อเสนอละเมิดสนธิสัญญาฉบับหนึ่ง แต่ปกป้องผลประโยชน์ที่สำคัญของประเทศได้ มีการหยิบยกเหตุผลหลายประการขึ้นมาสนับสนุน การกระทำดังกล่าว ท่านดยุคนั่งฟังโดยไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เมื่อทุกคนพูดจบแล้ว ท่านได้ปิดการประชุมลงโดยไม่ได้อนุมัติข้อเสนอนั้น และท่านกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขณะที่เอามือวางลงบนสำเนาของข้อตกลงฉบับเดิมว่า “ท่านสุภาพบุรุษเราได้ทำสนธิสัญญากันไว้แล้ว !”
เป็นเรื่องสำคัญที่คริสเตียนจะต้องทั้งทำและพูดเพื่อถวายเกียรติแด่พระผู้ช่วยให้รอดของเราเมื่อคุณรับปากอะไรกับใคร จงรักษาคำพูดที่คุณให้ไว้ หากคุณตั้งใจที่จะทำอะไร จงทำอย่างที่คุณตั้งใจ หากคุณไปทำข้อตกลงอะไรไว้ จงปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น ดังที่พระเยซูตรัสไว้ในมัทธิว 5:37 ว่า “จริงก็จงว่าจริง”
ความซื่อสัตย์และความน่าเชื่อถือของเรานั้นควรจะปรากฏชัดเพื่อเราจะเป็นคนที่ไว้วางใจได้สำหรับข้อตกลงทุกอย่างที่เราให้ไว้ ในฐานะผู้เชื่อ คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่มีคนพูดถึงเราว่า “เขารับปากฉัน นั่นก็เพียงพอแล้ว” หากคนที่ไม่เป็นคริสเตียนสามารถไว้ใจเราในเรื่องธุรกิจ พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อเราเวลาที่เราพูดถึงเรื่องพระกิตติคุณด้วย
หากคุณกำลังถูกทดลองให้ละเมิดคำสัญญา จงคิดถึงคำที่ท่านดยุคแห่งเบอร์กันดีกล่าว : ท่านสุภาพบุรุษ เราได้ทำสนธิสัญญากันไว้แล้ว!”
ข้าแต่พระบิดาเจ้า โปรดให้อภัยเมื่อข้าพระองค์ทอดทิ้งพระองค์ในชีวิตที่ยุ่งเหยิงของข้าพระองค์ โปรดเรียกข้าพระองค์ให้กลับมาหาพระองค์ยามหลงหาย ในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน