เรื่องเปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตเปลี่ยน
คำเทศนาเรื่อง เปลี่ยนวิธีคิดชีวิตเปลี่ยน
ข้อพระคัมภีร์ อิสยาห์ 55:8-9
โดย อ.เรวัฒน์ เทพจักร์
คำถาม :
1.อะไรที่ทำให้ น.ส.ชลธิชา มหิงสา อายุ 19 ปี ตั้งควรรภ์7 เดือนกล้าหาญไปชิงทอง ถูกตำรวจสภ.พระนครศรีอยุธยาถูกจับกุมตัวหลังก่อเหตุเข้าไปชิงทองหนัก 2 บาท ภายในร้านทองบุญชัย หน้าตลาดเจ้าพรหม อ.พระนครศรีฯ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า สาเหตุที่ต้องมาชิงทองเนื่องจากต้องการหาเงินไปซื้อนมให้ลูก ซึ่งสามีทอดทิ้งไปตั้งแต่คลอดลูกคนแรก เหตุเกิด 1 มิ.ย.
2.อะไรที่จูงใจให้ นายโนห์ มูเฮียน อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กว่า 5 ปี (ช่วง พ.ศ.2545-2550) ได้รับความนิยมชมชอบในหมู่ประชาชนจำนวนมาก โนห์ มูเฮียน ได้กระโดดหน้าผาตาย หลังถูกดำเนินคดีฐานทุจริต แม้คดีทุจริตของเขาจะยังไม่มีการพิพากษาเป็นที่สุด สื่อมวลชนก็ได้เปิดเผยข้อความที่เขาเขียนทิ้งไว้ก่อนตายว่า ผมได้ทำให้คนอื่นมีช่วงเวลาที่แสนสาหัส อย่าได้ตำหนิผม ชีวิตและความตายเป็นสิ่งเดียวกัน ฌาปนกิจผมซะเถอะ
สาเหตุก็คือ: เพราะความคิด ความคิดคือตัวกำหนดของพฤติกรรม และการกระทำต่างๆของมนุษย์ การกระทำของ
คนขึ้นอยู่กับทัศนคติ สุภาษิต 4:23 จงรักษาใจของเจ้าด้วยความระวังระไวรอบด้าน เพราะชีวิตเริ่มต้น
ออกมาจากใจ ถ้าคนใดคิดจะมีคริสตจักร เดี๋ยวจะมีคริสตจักรเกิดขึ้น และถ้าใครคิดจะมีกิ๊ก
เดี๋ยวจะมีกิ๊กให้เห็น...... ถ้าใครคิดจะมีร้านอาหารหรือร้านกาแฟ เดี๋ยวจะมีร้านกาแฟเกิดขึ้น
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ? เพราะความคิดคือตัวกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์
ดังนั้น... * ภาคธุรกิจจึงมีการทำโฆษณา ยอมจ่ายเม็ดเงินมหาศาลเพื่อสร้างแรงจูงใจทางความคิดของผู้บริโภคให้เกิด
ความรู้สึก -อยากมี อยากกิน อยากได้ อยากซื้อไว้เป็นเจ้าของ ( แม้จะต้องจ่ายเงินก้อนโต)
-อยากประสบความสำเร็จในชีวต อยากมีบ้าน มีรถ มีโอกาสได้ท่องเที่ยว มีเงินใช้ยามแก่ชรา
*พวกมิจฉาชีพหัวใสคิดกลอุบายลวงเหยื่อ เช่น ชาวบ้านชนบทถูกหลอกให้เอาโฉนดที่ดินไปค้ำประกันนักโทษ
เพราะเห็นแก่เงินค่าเช่าเอกสารไม่กี่หมื่นบาท แต่สุดท้ายนักโทษประกันตัวออกมาและหนีไป ชาวบ้านถูก
ยึดที่ดิน
พระคัมภีร์สอนอย่างไรเกี่ยวกับความคิด
1] 1คร 2:11 อันความคิดของมนุษย์นั้น ไม่มีผู้ใดหยั่งรู้ได้ เว้นแต่จิตวิญญาณของมนุษย์ผู้นั้นเองฉันใดมนุษย์ทุกคนกระทำ
2] อฟ2:3 เมื่อก่อนเราทั้งปวงเคยประพฤติเป็นพรรคพวกกับคนเหล่านั้น ที่ประพฤติตามตัณหาของเนื้อหนัง คือกระทำตาม
ความปรารถนาของเนื้อหนังและความคิดในใจ ตามสันดานเราจึงเป็นคนควรแก่พระอาชญาเหมือนอย่างคนอื่น
3] 1คร14:20 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ความคิดของท่านอย่าให้เป็นอย่างเด็ก ในเรื่องความชั่วร้ายจงเป็นอย่างทารก แต่ฝ่ายความคิด
จงให้เป็นอย่างผู้ใหญ่
4] มธ 22:37 "จงรักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดใจสุดจิตของเจ้า และด้วยสิ้นสุดความคิดของเจ้า
แสดงว่า ความคิดคือตัวบ่งการชี้นำ ทำหน้าที่คอยควบคุมและสั่งการในสมอง เพื่อให้มนุษย์ได้กระทำอะไรๆหลายสิ่งหลายอย่าง พระคัมภีร์สอนว่าซาตานได้ครอบงำทางความคิด ปิดกั้นตาใจจึงทำให้มนุษย์เห็นผิดเป็นชอบ ไม่สามารถเห็นความจริงในข่าวประเสริฐ เหมือนคำที่คนไทยชอบพูดว่า เห็นกรงจักรเป็นดอกบัว เห็นความชั่วเป็นความดี เห็นผีเป็นพระเจ้า เห็นเหล้าเป็นโอวัลติน มนุษย์มักทำในสิ่งตรงกันข้าม-ขัดขืนพระเจ้า
อิสยาห์ 55 พระเจ้าถาม ทำไมมนุษย์เอาเงินไปซื้อสิ่งของที่ไม่ใช่อาหาร ซื้อสิ่งที่จะไม่อาจนำมาซึ่งอิ่มใจหรือให้ตัวเองปิติยินดีได้เลย ในเมื่อสิ่งเหล่านี้คือสิ่งของฟรีๆที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมให้ทั้งสิ้นผ่านทางพระเยซูคริสต์แล้ว ( โดยไม่ต้องจ่ายค่าเสียราคาแม้แดงเดียว เป็นของให้ฟรีๆ ) จงตระหนักว่าการมีเงินทองอันมากมายไม่ใช่คำตอบของชีวิต บางคนตายไปด้วยความทุกข์ใจขณะที่เขามีเงินมหาศาล ตั้งแต่แรกสร้างโลกซาตานก็ใส่ความคิดให้เอวา ทำให้มนุษย์ทำผิดต่อพระเจ้า ทำผิดต่อกันเอง กล่าวโทษกันเอง ( คุณนั่นแหละผิด ฉันถูก ) มีการฆ่ากันตาย อารมณ์ฉุนเฉียวเลือดร้อน ชอบทำอะไรๆตามอำเภอใจ มีชีวิตที่อยู่ห่างไกลจากพระเจ้า ชนชาติอิสราเอลเป็นตัวอย่างของมนุษย์ทุกคน แม้เขาจะเชื่อถือ- นมัสการพระเจ้า รับใช้พระเจ้า แต่ซาตานก็เข้ามาครอบงำความคิด จึงทำให้เขาทิ้งห่างไกลจากพระเจ้า เพราะความคิดของมนุษย์คือตัวกำหนดพฤติกรรม ส่งผลต่อการกระทำออกมา เป็นผลของสิ่งที่อยู่ในความคิดของคน
วิธีแก้ไขปัญหา : 3 ประการดังนี้คือ
ประการที่ 1 อย่าถูกครอบงำทางความคิดโดยซาตาน อสย 55:2
คำถาม : ทำไมเจ้าจึงใช้เงินซื้อของในสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร แสดงว่ามีอะไรบางสิ่งผิดพลาดไป.....
มารซาตานมีเป้าหมายสูงสุดคือมาเพื่อ ลัก ฆ่า และทำลายเท่านั้น ต่างกับพระเยซูที่เสด็จมาเพื่อให้ชีวิตและความหวัง เป็นชีวิตที่ครบสมบูรณ์ ทำให้ชีวิตสมบูรณ์ คริสเตียนต้องระวังศัตรูที่ร้ายกาจคือซาตาน ศัตรูของเราไม่ใช่พี่และน้องในคริสตจักร ซาตานมันมาด้วยกลอุบาย แม้ว่าระยะแรกมันอาจจะมาด้วยคราบของแกะ มาด้วยพระพร มันอวยพรให้มนุษย์ มันหลอกและต้มตุ๋นเรา วางกับดักทางความคิด
ตัวอย่าง วิธีฆ่ากบโดยไม่ยาก ชาวนาจะเอากบใส่หม้อปิดฝาหม้อนำไปตั้งไฟที่เตาอ่อนๆ แรกๆกบก็คงรู้สึกสบายๆ ร้องเพลงว่าสบายๆ และแล้วน้ำก็เริ่มร้อนขึ้นๆโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็สายเกินไปแล้ว คริสเตียนจงระวังอย่าถูกหลอกเหมือนกบโง่นั้น
ตัวอย่างมารผจญเอวา และแม้กระทั่งพระเยซู มารก็ผจญพระเยซูคริสต์ มธ 4 จงระวังที่เราจะไม่ถูกครอบงำทางความคิดโดยพญามาร 1 เปโตร 5: 8 ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้
จงระวังไม่ให้ซาตานเข้ามาที่บ้าน ที่ทำงาน ที่โรงเรียน หรือที่ห้องนอน ที่ห้องนั่งเล่นของเรา ในรถของเรา มันจะมาบริการหรือเสริฟในสิ่งที่เราต้องการถึงที่
คำถาม : ท่านจะเผชิญหน้าซาตานได้อย่างไร ? จงระวังทางความคิด เพราะการกระทำทุกอย่างเริ่มจากความคิดของท่านมีคำกล่าวไว้ว่า อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมวลมิตรจงระวังคำพูด บ่อยครั้งในพระคัมภีร์เราจะเห็นว่าใครก็ตามที่อยู่คนเดียว หรือคนที่ว่างงานมากมักจะล้มในบาป เจอการทดลองได้ง่ายๆ ดังนั้นเราจะต้องสร้างเกาะป้องกันทางความคิดให้พ้นจากกลอุบายซาตาน ด้วยพระวจนะของพระเจ้าให้เราสนใจในพระคำมากขึ้น ไม่สำคัญว่าพระคัมภีร์จะเก่าเก็บหรือใหม่ๆ แต่อยู่ที่คุณอ่านมันไหม? ให้ความคิดของเราปักอยู่ในพระวจนะ ท่านต้องหาพี่เลี้ยงดูแล หาคนที่สัญญาจะอธิษฐานเผื่อเรา หรือคอยแนะนำชี้แนะในหนทางพระเจ้า ไม่เพียงแต่ซาตานที่ครอบงำทางความคิด แต่รวมถึงวัฒนธรรมต่างๆของสังคมที่อาจจะเข้ามาครอบงำความคิด ระวังที่เราจะไม่รับเองค่านิยมอื่นๆ ใหม่ๆ เช่นสังคมนิยมเสริมอก ใส่กางเกงขาดๆ หรือเจาะลิ้น มีอะไรก่อนแต่งงาน นอกจากพระคัมภีร์แล้ว คริสเตียนจะต้องดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐานของวัฒนธรรมของตนเอง
คำเตือน : จงระวังถูกครอบงำทางความคิด เอวา ดาวิด พระคริสต์ยังถูกทดลองอย่างหนัก แล้วท่านเป็นใครจะไม่ถูกมารมาผจญ? แต่ถ้าเรากำลังถูกครอบงำความคิดที่ไม่ถูกต้อง พระเจ้ามีทางออกให้ พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อเที่ยงธรรมจะทรงโปรดเมตตาให้ท่านมีหนทางหลีกเลี่ยงได้
1 โครินธ์ 10:13 ไม่มีการทดลองใดๆเกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าทรงสัตย์ธรรม พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้
ประการที่ 2 อย่าพึ่งอาศัยสติปัญญาของตนเอง อสย 55:8
มัทธิว16:23 "อ้ายซาตานจงไปให้พ้น เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา เพราะเจ้าคิดอย่างคน มิได้คิดอย่างพระเจ้า" จริงอยู่พระคัมภีร์สอนว่า สติปัญทุกอย่างมาจากพระเจ้าหากผู้ใดที่รู้สึกต้องการ และขาดปัญญาก็ให้ร้องขอ พระคัมภีร์สอนให้ คริสเตียนรู้จักดำเนินชีวิตฉลาดเหมือนงู พระเยซูคริสต์ขณะที่ยังเยาว์วัยก็เจริญขึ้นในด้านสติปัญญา และผู้คนในยุคสุดท้ายจะยกย่องคนฉลาด ดังนั้นคนที่ฉลาดก็มักจะได้เปรียบ แต่จงระมัดระวัง อย่าให้เราภาคภูมิใจในสติปัญญา ในความเฉลียวของตนเอง
ปญจ9:11 ข้าพเจ้าได้เห็นภายใต้ดวงอาทิตย์อีกว่า คนเร็วไม่ชนะในการวิ่งแข่งเสมอไป หรือฝ่ายมีกำลังไม่ชนะสงครามเสมอไป หรือคนฉลาดไม่รับประทานเสมอไป หรือคนมีความเข้าใจไม่ร่ำรวยเสมอไป หรือผู้ที่เชี่ยวชาญไม่ได้รับความโปรดปรานเสมอไป แต่วาระและโอกาสมีมาถึงเขาทุกคน
สภษ 3:5-6 จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจ อย่าคิดว่าตนฉลาด ท่านอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเอง ชีวิตคริสเตียนจะต้องยอมจำนนพระเจ้า ยอมรับพระสติปัญญาของพระเจ้าทุกๆอย่าง ยอมรับว่าความรู้ความสามารถของเราไม่สมบูรณ์ ยังขาดบกพร่อง และมีจุดอ่อนแอมากมายในชีวิต ท่านจงยำเกรงพระเจ้า หันหนีเสียจากความบาปชั่ว และพระเจ้าคือผู้ที่จะทำให้ชีวิตของเราราบรื่น ให้ความสำเร็จในชีวิต ให้ความปิติยินดี ความพึงพอใจในชีวิต
อิสยาห์ 55:8 เหตุผลที่พระเจ้าไม่ต้องการให้เราอาศัยไอคิวของตัวเองเท่านั้น เพราะความคิดของพระเจ้ากับความคิดของเราต่างกัน การกระทำของเรา กับการกระทำที่พระเจ้าจะทำก็สวนทางกันเสมอๆ คล้ายๆกับ 1 โครินธ์ 1: 25 เพราะความเขลาของพระเจ้ายังมีปัญญายิ่งกว่าปัญญาของมนุษย์ และความอ่อนแอของพระเจ้าก็ยังเข้มแข็งยิ่งกว่ากำลังของมนุษย์
ดังนั้นหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตคริสเตียน เราไม่ควรด่วนสรุปรวดเร็วว่า สิ่งที่เราคิด หรือสิ่งที่เราทำอยู่นั่นคือน้ำพระทัยพระเจ้าแล้ว วันนี้มียังมีคริสเตียนจำนวนมากโมเม และเหมาสรุปว่าสิ่งที่เขาพูดคือสิ่งที่พระเจ้าคิด สิ่งเหล่านี้อันตราย แม้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นอาจจอยู่บนพื้นฐานของพระคัมภีร์แล้วก็จริง.... ทุกๆครั้งเราควรจะไม่ลืมถาม หรือมองในมุมมองของพระเยซู ว่าหากเป็นพระเยซูคริสต์พระองค์จะพูดว่าอย่างไร พระองค์จะกระทำอย่างไรในเรื่องนี้ ?
เราจะเห็นความจำกัด โอกาสที่เรามักจะผิดพลาดจากน้ำพระทัยพระเจ้าบ่อยครั้ง ดังนั้นต้องระวังไม่อาศัยสติปัญญา ไม่พึ่งพาอาศัยความคิดเห็นของตัวเองฝ่ายเดียว ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง หรือเป็นศูนย์กลาง อาจเป็นชีวิตที่ไม่ค่อยสะดวกไม่สนุกนัก ดูเหมือนว่าการยืมจมูกพระเจ้ามาหายใจ มีขอบเขตจำกัดมากมาย ไม่สะดวกดั่งใจตัวเอง แต่เราก็พึงระวังไม่พึ่งพาอาศัยความคิดเห็นของตนเองเป็นที่ตั้ง
ผลของการวางใจในพระเจ้าชีวิตจะเป็นอย่างไร ? อสย 55:10-11
พระเจ้าทำในสิ่งที่เกินความเข้าใจของเรา เช่นฝน-หิมะ ลงมาจากสวรรค์จะไม่กลับไปที่สวรรค์ และไม่ได้มีไว้เพื่อสวรรค์ แต่เพื่อแผ่นดินโลกได้แตกหน่อ แตกใบ ได้เจริญออกผลดกทวีเลี้ยงประชากรในโลก เช่นเดียวกันพระคำของพระเจ้าจะไม่จบลงด้วยความว่างเปล่า แต่จะเกิดผลสู่ชีวิตคริสเตียน พระเจ้าจะอำนวยอวยพรให้ลูกพระเจ้าจำเริญขึ้นเช่นกัน และเพื่อเราจะกลับออกไปด้วยความชื่นบาน ไปด้วยสันติสุข สันติภาพ และร้องด้วยเสียงเพลงอันชื่นบานว่าพระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ พระเจ้าแสนดี พระเจ้าเป็นความหวังของเรา เป็นที่พึ่งที่พักพิงชีวิต
ดังนั้นขอให้เราวางใจในพระเจ้าว่า สิ่งที่เราประกาศข่าวประเสริฐสอนพระคำจะไม่สูญเปล่าเลย แต่จงเกิดผลในชีวิตของพี่น้อง ในชีวิตของเด็กๆ ชีวิตของฝรั่งต่างแดนมาเมืองไทยแล้วก็จากไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อคนไทย แต่กลับมีบางคนนั้นได้เริ่มต้นประกาศ รับใช้ ใช้เวลารับใช้พระเจ้า ใช้พระคำสอนเด็กๆ วันนี้มันได้เกิดผลแล้วในชีวิตอนุชน ในนักเรียน ในสมาชิกหลายคน พระเจ้าก็ได้รับพระเกียรติ นี่คือผลของการที่เราวางใจในพระเจ้า พระเจ้าก็ทำสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้
ประการที่ 3 จงรับการเปลี่ยนแปลงความคิดใหม่ อสย 55:8
เนื่องจากแนวทางความคิดเห็นของเรา มุมมองของเราต่ำกว่าพระเจ้ามากนัก มนุษย์ทั่วๆไปก็มีความคิดไม่ต่างกันสักเท่าไร คือบางคนคิดอย่างไร .....
-คิดว่า จะทำอย่างไรจะมีเงินเยอะๆ จะได้นั่งกินนอนกิน มีเวลาถวายตัวรับใช้พระเจ้าหลังเกษียณอายุ
-คิดว่า จะทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตอยู่นานๆในโลกนี้ ?
-คิดว่า จะทำอย่างไรจะมีโอกาสได้ไปเรียนที่เมืองนอก ต่างแดน ได้เดินทางท่องเที่ยวรอบโลกไปเมืองนั้นเมืองนี้
-บางคนก็คิดน้อยใจ สงสารตัวเองว่า ฉันมันเป็นคนไม่เก่ง ไม่สวย พ่อไม่รวย ฉันคงไปได้ไม่ไกลกว่านี้ ฉันคงทำไม่ได้
สิ่งต่างๆที่เราคิด มันส่งผลต่อการกระทำของเรา หากเราคิดลบ คิดว่าเราคงทำอะไรไม่ได้ คงเป็นไปไม่ได้ เราก็จะพบกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และทุกๆวันของเราจะเต็มไปด้วยความกลัว ความกังวลใจในชีวิต ความกระวนกระวายใจ จึงจำเป็นที่เราจะต้องรับการแก้ไข เปลี่ยนวิธีการคิดเปลี่ยนขวบการคิดใหม่ เพื่อเราจะสามารถเข้าใจความคิดของพระเจ้า จะรับทราบถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าว่า อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอไรดียอดเยี่ยม ในบางครั้งมุมมองของเรา ก็มองคนละด้านกับพระเจ้า ความคิดติดลบของเราก็มีมากมาย และเมื่อเรารู้สึกอย่างนี้จำเป็นที่เราจะต้องรับคำตอบจากพระเจ้า เช่น สิ่งเหล่านี้จะแสดงให้เราเห็นว่า เราอาจจะคิดแบบนี้ แต่พระเจ้ากลับคิดอีกแบบหนึ่ง
1.คุณบอกว่า: "มันเป็นไปไม่ได้" >> พระเจ้าตรัสว่า: "ทุกอย่างเป็น ไปได้" (ลูกา 18:27)
2.คุณบอกว่า: "ฉันเหนื่อย เหลือเกิน" >> พระเจ้าตรัสว่า: "เราจะให้เจ้าได้หาย เหนื่อย" (มัทธิว 11:28-30)
3.คุณบอกว่า: "ไม่ มีใครรักฉันเลย" >> พระเจ้าตรัสว่า: "เรา...รักเจ้า" ( ยอห์น 3:16)
4.คุณบอกว่า: "ฉันสู้ต่อไปไม่ไหว แล้ว" >> พระเจ้าตรัสว่า: "พระคุณของเรานั้นมีเพียงพอ" (2 โครินธ์ 12:9 & สดุดี 91:15)
5.คุณบอกว่า: "ฉันไม่รู้ จะทำอย่างไรต่อไปดี" >> พระเจ้าตรัสว่า: "เราจะนำย่างเท้าของ เจ้า" (สุภาษิต 3:5-6)
6.คุณบอกว่า: "ฉันจะ ผ่านมันไปได้อย่างไร" >> พระเจ้าตรัสว่า: "เจ้าจะเผชิญทุกสิ่ง ได้" (ฟิลิปปี 4:13)
7.คุณบอกว่า: "ฉันทำไม่ ได้" >>พระเจ้าตรัสว่า: "เรา..ทำได้" (2 โค รินธ์ 9:8)
8.คุณบอกว่า: "ไม่คุ้มเลย" >>พระเจ้าตรัสว่า: "ผลที่ได้จะดีคุ้มค่าแน่นอน" ( โรม 8:28 )
9.คุณบอกว่า: "ฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองเด็ด ขาด" >>พระเจ้าตรัสว่า: "เราอภัยให้เจ้าเสมอ" (1 ยอห์น 1:9 & โรม 8:1)
10.คุณบอกว่า: "มันเกินกำลังของ ฉัน" >>พระเจ้าตรัสว่า: "เราจะจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นให้แก่ เจ้าไม่ให้ขาดเลย" (ฟิลิ ปปี 4:19)
11.คุณบอกว่า: "ฉัน..กลัว" >>พระเจ้าตรัสว่า: "เราไม่ได้มอบจิตที่ขลาดกลัวให้แก่เจ้า" (2 ทิโม ธี 1:7)
12.คุณบอกว่า: "ฉันท้อแท้ และกังวล ใจ " >>พระเจ้าตรัสว่า: "จงละความกระวนกระวายใจเอาไว้ที่ เรา" (1 เปโตร 5:7)
13.คุณบอกว่า: "ฉันไม่ฉลาด พอ" >>พระเจ้าตรัสว่า: "เราให้สติปัญญาแก่ เจ้า" (1 โครินธ์ 1:30)
14.คุณบอกว่า: "ฉันรู้สึกอ้างว้างเดียวดาย" >>พระเจ้าตรัสว่า: "เราจะไม่ละเจ้า หรือทอดทิ้งเจ้าเลย" (ฮีบรู 13:5)
โปรดจงรู้ไว้ว่า พระเจ้าทรงมีแผนการณ์สำหรับชีวิตของคุณและพระเจ้าต้องการใช้คุณ ในบางครั้งคุณอาจบอกพระเจ้าว่า "คุณยังไม่พร้อม" แต่พระเจ้าทรงเห็นว่า คุณพร้อมแล้วและพระองค์ใช้การคุณได้ ดังนั้นในวันนี้ขอให้คุณรับการเปลี่ยนแปลงความคิด และชีวิตของคุณจะเปลี่ยนใหม่ หลายครั้งในชีวิตของเราที่ไม่ค่อยเห็นพระคุณพระเจ้า ไม่เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า หรือพระคุณพระเจ้า ไม่ใช่เพราะว่าพระเจ้าไม่ยิ่งใหญ่ หรือฤทธิ์พระเจ้าเสื่อลง แต่เพราะความคิดของเรา เช่นเดียวกับ สดุดี 51:10 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสร้างใจสะอาดภายในข้าพระองค์ และฟื้นน้ำใจที่หนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์ / สุภาษิต 1: 23 จงมาสนใจในคำตักเตือนของเรา นี่แน่ะ เราจะเทความคิดของเราให้เจ้า เราจะให้ถ้อยคำของเราแจ้งแก่เจ้า
ให้เราทูลขอพระเจ้าสร้างใจของเราใหม่ เทความคิดของพระเจ้าให้เราใหม่ เพื่อเราจะกลับมามีความคิดใหม่ มีจิตใจที่เสาะแสวงหาพระเจ้า และไม่วิ่งหาสิ่งที่ไร้ค่าอีกต่อไป และเราจะไม่มองโลกในแง่ร้ายอีกต่อไป แต่เราจะมองเห็นอุปสรรคปัญหาในมุมมองของพระเจ้า ขอพระเจ้าสร้างความคิดของเราขึ้นใหม่
เปลี่ยนความคิดชีวิตจะเปลี่ยนไป.....